“พิชัย” ชี้ “แจ๊ค หม่า”ลงทุนในไทยน้อยกว่าในมาเลเซียถึง5เท่า! เตือนคุมให้ดีไม่ให้ถูกถูกครอบงำทางการค้า

“พิชัย” ยินดี แจ๊ค หม่า และ อาลีบาบามาลงทุน แต่ลงทุนน้อยกว่า ลงทุนในมาเลเซีย 5 เท่า ไม่ได้ลงทุนในไทยมากกว่าเหมือนรัฐบาลบอก เตือน ควบคุมให้ดีอย่าถูกครอบงำทางการค้าออนไลน์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ในที่สุดแล้ว แจ๊ค หม่า และ อาลีบาบา ก็ตัดสินใจมาลงทุนในไทย ซึ่งตอนที่ตนเองถูกเรียกครั้งที่ 8 ให้ไปที่กองทัพภาคที่ 1 และพบกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้เป็น รมต. ก็ได้บอกให้ นายกอบศักดิ์ เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะอย่างไรก็ตามอาลีบาบาถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางอีคอมเมิร์ซ ก็ต้องลงทุนในทุกประเทศในอาเซียนอยู่แล้ว และหลังจากที่เขาได้พบผู้นำมาเลเซีย และประกาศว่ามาเลเซียเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ซึ่งก็เสียดายที่ไทยไม่ได้เป็นศุนย์กลางของภูมิภาคนี้ทั้งๆที่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยเหมาะสมกว่ามาเลเซียมาก และหากไทยได้เป็นศูนย์กลางจะเป็นประโยช์กับไทยอย่างมาก โดยการลงทุนของอาลีบาบาในไทยเริ่มเพียง 11,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าการลงทุนของอาลีบาบาในมาเลเซียเริ่มที่ 7000 ล้าน ริงกิต หรือ ประมาณ 56,000 ล้านบาท หรือน้อยกว่าถึง 5 เท่า ไม่ได้ลงทุนในไทยมากกว่าในมาเลเซียเหมือนที่ นายอุตตม สาวนายน รมว. อุตสาหกรรมโฆษณาไว้ก่อนหน้านี้

.

ส่วนจะมีการลงทุนเพิ่มในอนาคตคงต้องดูกันต่อไป อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลคำนึงว่าการค้าออนไลน์เป็นธุรกิจที่จะขยายตัวอย่างมากในปัจจุบันและในอนาคต หากประเทศไทยตามไม่ทันอาจถูกครอบงำได้ และ ธุรกิจใหญ่เล็กในประเทศก็จะได้รับผลกระทบทั้งหมด การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเชื่อว่านายแจ๊ค มา รวยอยู่แล้ว และจะมาช่วยโดยไม่หวังประโยชน์ อาจจะเป็นคำพูดที่ขาดการไตร่ตรองทางความคิด เพราะคงไม่มีพ่อค้าคนไหนควักเงินมาลงทุนเป็นหมื่นล้านบาทแล้วจะไม่หวังประโยชน์ตอบแทนอย่างแน่นอน อย่าให้ประชาชนหวลนึกถึงคำพูดของ คสช. ตอนเข้ามาปฏิวัติที่บอกว่า ไม่หวังผลประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นจึงอยากขอเตือนให้รัฐบาลรอบคอบและตามให้ทันเพื่อไม่ให้ธุรกิจใหญ่น้อยของไทยได้รับผลกระทบจากการลงทุนนี้ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้มีนโยบายและแผนงานในการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ของประเทศอย่างเป็นระบบแล้ว เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ให้พ่อค้าใหญ่ได้ประโยชน์เหมือนที่เกิดเป็นประจำในรัฐบาลนี้