“วิวรรธนไชย”เปิดแผนสกัดเพื่อไทย ไม่ให้ได้ สส.เกิน 250 คน

นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการเมืองและสูตรการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองและบัญญัติในรัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้สามารถฟังธงได้ 3 ประเด็น คือ

1.รัฐบาลและ คสช.จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยอาศัยเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ คสช.จำนวน 250 คน บวกกับ ส.ส.อีกจำนวน 126 คน เพื่อให้รวมกันได้ 376 เสียง จะเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกในรัฐสภา

2.พรรคเพื่อไทย (พท.)มีโอกาสสูงที่จะได้นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเกินกึ่งหนึ่ง คือ จำนวน 251 คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหน้าตาของหัวหน้าพรรค และ 3.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.จะไม่รับเป็น 1 ใน 3 รายชื่อของพรรคการเมืองใด แต่จะเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยอาศัยช่องทางนายกฯคนนอก ตามมาตรา 272 ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560

“เชื่อว่า พล.อ.ประยูทธ์ นั้นจะไม่รับเป็น 1 ใน 3 รายชื่อของพรรคการเมือง แม้แต่พรรคของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนากยฯก็จะไม่ได้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมจะเป็นนายกฯ ผ่านช่องทางตาม มาตรา 272 ในบทเฉพาะกาล ที่ระบุว่า หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรคคการเมือง ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ ในกรณีที่สภามีมติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด คือ 500 จาก 700 คน สามารถยกเว้นได้ ทำให้พรรค พท.ได้ที่นั่งไม่เกิน 250 เสียง รัฐบาล คสช.ก็อยู่ง่าย และยังสามารถหาเสียงยกเว้นให้ พล.อ.ประยูทธ์ เป็นนายกฯคนนอกได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีความพยายามไม่ให้พรรค พท.ได้คะแนนเกิน 250 เสียง เพราะถ้าพรรค พท.ได้ไม่เกิน 250 เสียง ก็จะมีโอกาศหาเสียง ส.ส.มาบวกกับเสียง ส.ว. 250 กลายเป็น 500 ที่ทำให้นายกฯคนนอกไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรคใดเลย พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯอย่างสง่าผ่าเผยถูกเทียบเชิญมาด้วยซ้ำ”

นายวิวรรธไชย กล่าวว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ให้อำนาจ สว.ในการเลือกนายกฯเช่นเดียวกับ ส.ส. ดังนั้นด้วย ส.ว. 250 คน ที่รัฐบาล คสช.มีอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาเสียง ส.ส.เพิ่มอีกเพียง 126 คน เพื่อให้มีเสียงโหวตเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา คือ 376 จาก 700 คน จะทำให้รัฐบาล คสช.สามารถตั้งรัฐบาลได้ทันที จากกระแสข่าวที่ผ่านมา พบว่า มีความพยายามสร้างพันธมิตรจากพรรคต่างๆ เช่น ดึงนายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.พรรค ปชป.มาร่วมพรรคพลังประชารัฐ หรือการแต่งตั้งนายสนธนา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล ให้เป็นที่ปรึกษานายกฯ

อย่างไรก็ดีภารกิจที่รัฐบาล คสช.และเครือข่าย ต้องทำให้ได้และกำลังทำอยู่ คือ ทำให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่สามารถมีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้ถึง 125 เสียง เนื่องจาก มาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ในการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ต้องอาศัยเสียงจาก ส.ส.จำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งของ ส.ส.ทั้งหมด ดังนั้นหากพรรค พท.ได้คะแนนเกิน 250 เสียง จะสามารถล้มรัฐบาลได้ทันที โดยที่ ส.ว. 250 เสียง จะไม่มีความมหมายในขั้นตอนนี้แต่อย่างใด หากรัฐบาล คสช.หวังอยู่ในอำนาจอย่างราบรื่น วิธีคิดในการสกัดไม่ให้พรรค พท.ได้ ส.ส. 251 เสียงนั้นถูกต้องแล้ว แต่วิธีการต่างหากที่ผิด เพราะรัฐบาล คสช.และเครือข่ายกลับไปดึงนายสกลธี หรือนายสนธยา ล้วนไม่ใช่คนของพรรค พท. จึงยังไม่สามารถกระเทือนผิวพรรค พท.และยังไม่มีสมาชิกพรรค พท.คนใดที่ถูกดึงตัวไป โดยเฉพาะในภาคเหนือและอีสาน มั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรค พท.จะได้ไม่ต่ำกว่า 230 เสียงแน่นอน