เผยแพร่ |
---|
วันนี้ 26 มีนาคม 2561 พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยและแกนนำกปปส.แจ้งวัฒนะ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กแฟนเพจ ชื่นชมคำพูดของมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน โดยระบุว่า
ขอปรบมือให้กับวลีที่ว่า “ประเทศชาติไม่ใช่สถานที่ฝึกงาน” ของคุณมัลลิกา บุญมีตระกูล ช่างเป็นวลีที่มีความหมายครอบคลุมไปยังชนชั้นผู้นำ และผู้ที่เคยเป็นผู้นำ รวมทั้งผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้นำในอนาคต เพราะเมื่อปี 54 ประเทศไทยเคยปล่อยให้ยอดนารีขี้ม้าขาว ผู้ไร้ประสบการณ์มาใช้ประเทศนี้เป็นที่ฝึกงานด้านบริหาร จนทำให้ฐานะทางการเงินของชาติแทบล่มสลาย เพราะได้คนไร้ประสบการณ์ที่ตั้งใจเข้ามาออกกฎหมายนิรโทษเหมาเข่ง เพื่อช่วยพี่ชายกลับเข้าเมืองไทยแบบเท่ๆ และเพราะยอดนารีขี้ม้าขาว เข้ามาฝึกเป็นนายกนี่เอง จึงต้องคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ฐานปล่อยให้เกิดการทุจริตโครงการจำนำข้าว ทำให้ยอดนารีต้องอาศัยเส้นทางธรรมชาติ หนีหัวซุกหัวซุน โทษฐานเพราะบังอาจมาใช้ประเทศนี้ฝึกงาน
อีกวลีหนึ่งที่โดนใจฉันมากๆ คือ “คนจะเดินไปข้างหน้า ก็ต้องยอมรับประวัติศาสตร์ข้างหลัง” ช่างเป็นวลีที่สะท้อนให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักว่า อย่าเอาแต่วาดวิมานในอากาศ เพ้อฝันจนหลงลืมรากเหง้าของปัญหาที่ทุกคนในชาตินี้ต้องทนรับกรรม หากจะฝันก็ควรนำเอาเรื่องจริงของปัญหาที่เกิดมาแล้ว มาเป็นเครื่องสอน เครื่องเตือน ให้ตระหนักสำนึก ระมัดระวังมิให้ความผิดพลาดเก่าๆ ย้อนกลับมาทำร้ายคนทั้งชาติอีก
ที่จริงก็นับว่าเป็นการดี ที่คนรุ่นใหม่หันมาสนใจใส่ใจอนาคตของบ้านเมือง แต่จะเป็นการดีอย่างยิ่ง ถ้าคนรุ่นใหม่เหล่านี้ ได้เรียนรู้ต้นเหตุแห่งปัญหาด้วยปัญญาอย่างไร้อคติ บ้านเมืองนี้จักได้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ที่พุทธะอิสระต้องเขียนเรื่องนี้ ก็เพราะเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการที่คนไร้ประสบการณ์ ขาดความรู้จริง เข้ามาใช้ประเทศนี้ฝึกงาน หากขอได้จะขอร้องให้บรรดาคนช่างฝันทั้งหลายได้กรุณาเหลียวหลังดูต้นตอของปัญหาในอดีตด้วยว่า
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดจากใครเป็นผู้สร้างปัญหา และท่านจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหรือจะเข้ามาสร้างปัญหา มันคงเป็นไปไม่ได้หลอกว่า จะสร้างโลกแห่งความฝัน โดยไม่สนใจความเน่าเหม็นที่ถูกซ่อนอยู่ในโลกนี้