สธ.ชี้หากท้องถิ่นเพิกเฉยผลกระทบจาก ‘ตลาด’ ร้องศาลปกครองได้

นายสมชาย ตู้แก้ว ผู้อำนวยการศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งตลาดที่หมู่บ้านเสรีวิลล่าตามที่เป็นข่าว กรณีการทุบรถที่มีจ่ายตลาดจอดขวางทางเข้าออกบ้าน ว่า ตลาดจัดเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ที่มีการกำหนดไว้ในพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 แก้ไข(ฉบับที่3) พ.ศ.2560 การจัดตั้งต้องมีการขออนุญาตจากส่วนราชการท้องถิ่น  กรณีนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบใครทำผิดถูก ต้องเริ่มตั้งแต่พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่อะไร สามารถใช้ตั้งตลาดได้หรือไม่ มีการขออนุญาตตั้งตลาดหรือไม่ มีตัวอาคารหรือไม่ และดูพฤติกรรมการกระทำกิจการนั้นว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นหรือไม่ ทั้งนี้ การประกอบอาชีพเป็นเสรีภาพที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่การใช้เสรีภาพต้องไม่ไปละเมิดคนอื่น

นายสมชาย กล่าวอีกว่า กรณีนี้ถ้าพื้นที่นั้นไม่มีข้อห้ามสามารถตั้งเป็นตลาดได้ เป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานครที่จะต้องแจ้งและควบคุมกำกับให้ผู้ได้รับใบอนุญาตตั้งตลาด ดำเนินการกิจการตลาดอย่างไร ไม่ให้เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้าง ซึ่งการเปิดตลาดไม่ใช่สิ่งผิด ทำได้ แต่มีประเด็นเรื่องการดำเนินการกิจการมีการจัดการอย่างไร จนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และเกิดเหตุไปจอดรถขวางทางเข้าออกในทรัพย์สินของคนอื่น รวมถึงขยะส่งกลิ่นเหม็นหรือไม่และกำแพงตลาดไปติดรั้วบ้านคนอื่นจนเขาเดือดร้อนหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องมีการตรวจสอบ ถ้าประชาชนเดือดร้อนก็ร้องท้องถิ่นให้เข้ามาจัดการได้ ถ้าท้องถิ่นไม่เข้ามาช่วยคลี่คลายก็มีสิทธิฟ้องศาลปกครองหรือศาลยุติธรรมหากมีประเด็นทางแพ่งหรืออาญา

“ส่วนกรณีคนเดือดร้อนจากการดำเนินการของตลาดแล้วไปทุบรถคนจอดขวางเป็นอีกประเด็นจะอ้างว่าทำไปเพื่อขจัดอุปสรรคสิ่งกีดขวางลดความเดือดร้อนไม่ได้ เพราะทุบแล้วรถที่ขวางก็ไม่ได้ทำให้รถพ้นทาง ถ้าเป็นการใช้รถมายกรถที่จอดขวางออกไปอันนั้นอาจเป็นเหตุที่ฟังขึ้น”นายสมชายกล่าว