นายกฯ ไม่ทน ลุกแจงทันควันปม “เงินทอนกองทัพ” เหน็บฟังมา 40 นาที ฝ่ายค้านยังงงเหมือนเดิม

นายกฯ ไม่ทนลุกแจงทันควันปมเงินทอนกองทัพ ชี้ใครกันแน่ใช้ไอโอทำปชช.หน้ามืดตามัว ย้อนเหน็บฟังมา 40 นาทียังเป็นฝ่ายค้านงงเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นวันที่ 2

จากนั้น เวลา 10.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกชี้แจงว่า วันนี้อุตส่าห์มาฟังฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์กระทรวงกลาโหมเรื่องของกองทัพ จริงๆ ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ก็ผิดหวังนิดหน่อย เพราะเป็นเรื่องน้ำๆ ทั้งนั้น ยืนยันว่า กองทัพมีไว้เพื่อความมั่นคง ไม่ใช่ความมั่งคั่งของใครคนใดคนหนึ่ง เรื่องวาทกรรมด้อยค่าต่างๆ เรื่องที่ว่าภาพลักษณ์ตกต่ำ ใช้ไอโอดำมืดลึกล้ำต่างๆ เหล่านี้

ตนขอว่า ให้เวลารัฐบาลบริหารงานให้ครบ 4 ปี จริงๆ ประชาชนจะตระหนักดีในตอนจบเองว่า คนที่ใช้ไอโอ พยายามครอบงำคนให้หน้ามืดตามัวจริงๆ แล้วคือใคร เรื่องที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกำลังทำอยู่นั้นยืนยันว่าเป็นการพัฒนาร่วมกัน ตนเชื่อว่าตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องการสมัครใจเกณฑ์ทหาร หรือเรื่องที่ท่านใช้คำที่ว่าไปซื้ออะไรมาก็ต้องไปเอาอะไรกลับคืนมาบ้าง ที่ยกตัวอย่างที่มาเลเซียนั้นตนก็ได้มีการคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าเราก็ต้องมีเรื่องพวกนี้เช่นกัน ไม่ใช่ว่าเราไปซื้ออาวุธเขามาแล้วไม่ได้ไปเอาอะไรเขามา

นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องของเงินทอนนั้นเห็นท่านพูดหลายหนแล้ว ตนก็เคยพูดแล้วว่า ถ้ามีเงินทอนก็ขอให้เอาหลักฐานมา เรื่องของเรือฟริเกตที่ท่านเชียร์เหลือเกิน ถ้าตนพูดกลับไปว่าถ้าพวกท่านมีเงินทอน ท่านคงไม่พอใจเหมือนกัน ตนคิดว่าเรื่องนี้เอาหลักฐานมาคุยกันดีกว่า เรือฟริเกตที่สนับสนุนให้ต่อในไทยนั้นเป็นหลักการที่ถูกต้อง แต่มันมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมีหลายมิติเราพยายามให้ทางกองทัพได้ของที่ดีที่สุด

“ฟังมา 40 นาทีก็ยังเข้าใจว่าเป็นฝ่ายค้านที่ยังงงอยู่เหมือนกัน เพราะพวกท่านเคยบอกว่า เอาเรือประมงมารบแทนเรือรบ แต่วันนี้กลับมาสนับสนุนให้ซื้อเรือรบอีก และเรื่องของการซื้ออาวุธก็จะให้มีความโปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริตและคำนึกถึงการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ภาคอื่นจะได้จากการที่เราซื้อขายอาวุธด้วย ขอยืนยันอีกครั้งว่ากองทัพมีไว้เพื่อความมั่นคงของประเทศ” นายเศรษฐากล่าว