คนชลบุรี แห่ฟังปราศรัย เทใจ ให้ทีม พลังเฮ้ง พึ่งได้ จับต้องได้จริงในช่วงวิกฤตโควิด ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566 เวลา 18.00 น. ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ (โรงไม้ขีดเก่า) เทศบาลเมืองพนัสนิคม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรค รทสช.ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายรณเทพ อนุวัฒน์ หรือ ส.ส.หนวด ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 ชลบุรี เบอร์ 7 ชูผลงานและนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจของ สุชาติ ชมกลิ่น โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น มีแฟนคลับของนายสุชาติและพรรค รทสช. กว่า 6,000 คน ต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองมาฟังการปราศรัยอย่างแน่นขนัดเต็มพื้นที่เทศบาลเมืองพนัสนิคม

โดยในช่วงแรก นายสุชาติ ได้กล่าวถึงผลงานในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา พี่น้องคนไทยโชคดีที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐบาลที่กล้าตัดสินใจเด็ดเดี่ยว แก้ไขปัญหารวดเร็ว จนองค์การอนามัยโลก ชื่มชมประเทศไทยฝ่าโควิดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ตนในฐานะที่เป็น ส.ส.เขต 1 ไม่เคยทิ้งพื้นที่ ประสานงานกับผู้นำท้องถิ่น ลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนช่วยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด นำสิ่งของที่จำเป็นไปมอบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จนมาเป็นรัฐมนตรีแรงงานแก้ไขปัญหาโควิดระบาดระลอกสองในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร นำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง ตรวจคัดกรองเจอเชื้อนำไปรักษาภายใน 2 เดือนสามารถเปิดจังหวัดสมุทรสาครได้ปกติ ทำโครงการแฟคทอรี่แซนบ็อก ตรวจคัดกรอง ฉีดวัคซีนให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานในโรงงาน โดยไม่ต้องปิดโรงงาน เปิดสายด่วน 1506 ตั้งวอลรูมเฉพาะกิจช่วยพี่น้องแรงงานประสานหาเตียง ประสานโรงแรมเปิด Hospitel เป็นที่รักษาผู้ประกันตน นอกจากนี้ ยังได้เยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ลดเงินสมทบให้แก่ผู้ประกันตนเพื่อรักษาการจ้างงาน 12 ล้านคน รักษาธุรกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 การเปิดประเทศฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียในรอบ 32 ปี ซึ่งไม่มีรัฐบาลใดทำสำเร็จมีเพียงในยุครัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งได้ไปเปิดประเทศเพื่อส่งออกแรงงานฝีมือไปทำงานในซาอุดีอาระเบีย

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทของพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นนโยบายที่อันตรายที่สุด โรงงานปิดตัวลง เอสเอ็มอีรับภาระต้นทุนไม่ไหว ค่าครองชีพสูงขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้นเพราะภาคธุรกิจหันมาใช้เทคโนโลยีแทนกำลังคน ซึ่งเคยมีประสบการณ์ช่วงที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศมาแล้วในปี 2554 การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้องยึดมั่นในระบบไตรภาคี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของเศรษฐกิจภูมิภาค จีดีพีรายได้ต่อหัวแต่ละจังหวัดด้วย ไม่ใช่นโยบายค่าแรงที่มาจากนักการเมือง วิธีแก้ปัญหาต้องนำแรงงานมาฝึกทักษะ ฝึกอาชีพ เพื่อให้ได้ค่าแรงตามมาตรฐานฝีมือที่ได้ประกาศไปแล้วใน ครม.ไปแล้ว 129 สาขาอาชีพ พี่น้องผู้ใช้แรงงานจะได้พ้นกับดักค่าแรงขั้นต่ำ

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงสิ่งที่พรรค รทสช.จะทำเพื่อพี่น้องผู้ใช้แรงงานและพี่น้องประชาชนเมื่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อาทิเช่น เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรลุงตู่ให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยจากเดิม 300 – 400 บาทเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ขอ คืนเงินชราภาพผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเงินชราภาพ อายุ 55 ปี เป็น 10,000 บาท เพิ่มเงินเลี้ยงดูแลบุตร จากเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ขวบ ได้ 800 บาท ปรับเป็นเด็กแรกเกิดจนถึง 10 ขวบ ได้ 1,000 บาท เสนอให้มีโรงพยาบาลประกันสังคมเพื่อรักษาดูแลผู้ประกันตนกว่า 12 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นนโยบายที่คิดไว้ทั้งหมดแล้วเพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงาน

ในช่วงท้าย นายสุชาติ ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ตนไม่ลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เพราะถ้าลงสมัคร เขต 1 ชลบุรีได้เป็น ส.ส.คนเดียว แต่ถ้าขึ้นบัญชีรายชื่อสามารถไปช่วยลุงตู่หาเสียงได้ทั้งประเทศ และลงไปช่วยเพื่อน ๆ ทุกเขตได้ ตนและทีมเฮ้งพึ่งได้ปวารณาตัวว่า ขอเป็นผู้แทนราษฎรของจังหวัดชลบุรีทั้ง 10 เขต พร้อมเดินสายไปพบปะรับใช้พี่น้องประชาชนทุกอำเภอ พี่น้องชาวชลบุรีจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ได้ ส.ส.ที่เป็นผู้รับใช้ประชาชนทั้งจังหวัดชลบุรี นายสุชาติ กล่าวท้ายสุด