สื่อมวลชนเมียนมา รายงาน ค่ำวันที่ 19 ม.ค. ที่โรงแรม Pristine Mermaid Resort ในจังหวัดตันตวย รัฐยะไข่ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) และนายกรัฐมนตรี เมียนมา ได้เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ของไทย พร้อมภรรยา และคณะ ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการระดับสูง ไทย-เมียนมา ทั้งนี้ ไม่มีรายงานว่าหัวข้อที่ผู้นำสูงสุดของเหล่าทัพของทั้ง 2 ประเทศจะพูดคุยกันในการประชุมครั้งนี้ มีเรื่องอะไรบ้าง แต่สื่อในเมียนมาได้นำเสนอภาพข่าวการร่วมรับประทานอาหารกลางวันกันของพล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย กับพล.อ.เฉลิมพล ซึ่งดำเนินการไปภายใต้บรรยากาศที่ชื่นมื่น

ในตอนแรก นายอุปกิต ออกมา ให้การรับรองนักธุรกิจชาวเมียนมาผู้นี้ว่า “ไม่ได้ขายอาวุธเถื่อน ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด” แต่ต่อมาในเดือน พ.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงว่าสามารถอายัด-ยึดทรัพย์สินรวมของเครือข่ายนายตุน มิน ลัต เป็นมูลค่ารวม 1,858 ล้านบาทขณะที่นายตุน มิน ลัต ถูกควบคุมตัวอยู่เพื่อรอการพิจารณาคดี แหล่งข่าวที่รู้ข้อมูลวงใน 2 ราย บอกกับรอยเตอร์ว่า ลูกสองคนของ มิน อ่อง หล่าย จะไม่ถูกดำเนินคดี โดยบอกว่าทางการไทยไม่คิดว่าพวกเขาไม่ความเกี่ยวข้องกับการสืบสวนนายตุน มิน ลัต

รอยเตอร์ รายงานว่า ได้สอบถาม ออง แพ โซน ลูกชาย และ ขิ่น ธิรี เธต โมน ลูกสาวของผู้นำทหาร เพื่อขอคำชี้แจง แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับ และรอยเตอร์ก็ไม่สามารถติดต่อตัว พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้  เช่นเดียวกับพ่อของพวกเขา ทั้ง ออง แพ โซน และขิ่น ธิรี เธต โมน ต่างก็ถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตร โดยสหรัฐฯ บอกว่า พวกเขามีธุรกิจที่ “ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากตำแหน่งของพ่อและอิทธิพลที่เลวร้ายของเขา”

โฆษกกลุ่มเคลื่อนไหว Justice for Myanmar ระบุว่า การค้นพบนี้ชี้ว่า ครอบครัวของมิน อ่อง หล่าย แอบซ่อนทรัพย์สินในไทย แถลงการณ์ของ Justice for Myanmar ระบุอีกว่า กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าสมาชิกครอบครัวทหารเมียนมาสามารถเข้าถึงธนาคารในไทยได้และใช้ไทยเป็นสถานที่ซ่อนรายได้ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย

แถลงการณ์บอกว่า Justice for Myanmar “เรียกร้องให้ทางการไทยยึดทรัพย์สินและสืบสวนว่าออง แพ โซน และขิ่น ธิรี เธต โมน ได้ผลประโยชน์มาจากผลกำไรของอาชญากรรมที่ผิดกฎหมายไทยที่นายตุน มิน ลัต ถูกกล่าวหา หรือไม่ และให้ห้ามไม่ให้ผู้ก่อรัฐประหาร สมาชิกครอบครัวผู้ก่อรัฐประหาร และผู้ให้การช่วยเหลือ เข้าถึงธนาคารและการซื้อทรัพย์สินในไทย”

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่ให้ความเห็นรอยเตอร์ในเรื่องนี้ และแนะนำให้รอยเตอร์ไปถามหน่วยงานด้านบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ แต่หน่วยงานเหล่านี้ก็ไม่ได้ตอบคำถามรอยเตอร์แต่อย่างใด