ครูใหญ่เปิดตัว ชิงเก้าอี้ส.ส.ขอนแก่น มาถึงก็เจอดราม่า ขุดโพสต์เก่าขย่มทันที

เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ครูใหญ่ – อรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำกลุ่มราษฎร ประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้แทนจังหวัดขอนแก่นในนามของพรรคก้าวไกลแน่นอนแล้ว

เปิดตัววันรัฐธรรมนูญ

โดยเจ้าตัวเขียนข้อความโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “ตัดสินใจอยู่นาน วันนี้ 10 ธ.ค. 65 เป็นวันฤกษ์งามยามดี ขออนุญาตติดป้ายแนะนำตัวกับพี่น้องประชาชนชาวขอนแก่น บริเวณทางเข้าออก”หมู่บ้านเมืองเอก” และ “หน้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น” อย่างเป็นทางการ

ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่น้องชาวขอนแก่นอย่างเป็นทางการ หลังจากนี้ผมจะเริ่มเดินสายพบปะพี่น้องในพื้นที่ให้มากที่สุด ท่านใดต้องการสนับสนุน อยากพบปะ อยากให้ลงพื้นที่จุดใด หรืออยากร่วมเป็นทีมงานกับเรา สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ เพจ ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ – Attapon Buapat ได้เลยครับ

ขอบคุณ : ทีมงานก้าวไกลขอนแก่น คุณวิโรจน์ลักขณาอดิศร รีสอร์ท กู่แคน(ไทบ้านผู้สร้างงานศิลป์) ที่มาช่วยลงแรงลงใจปักป้ายวันนี้

ทั้งนี้ นายอรรถพล ยังได้โพสต์รูปภาพขณะทีมงาน พร้อมด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส. และผู้สมัครผู้ว่า กทม. จากพรรคก้าวไกล กำลังช่วยนายอรรถพลทำการติดตั้งป้ายหาเสียงด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นสนับสนุนและรัวอิโมจิหัวใจสีส้ม ส่งกำลังใจให้อย่างต่อเนื่อง

เจอขุดโพสต์เก่าถล่ม

แต่แล้วยังไม่ทันข้ามวันก็ได้เกิดดราม่าขึ้น เมื่อโลกออนไลน์โดยเฉพาะในทวิตเตอร์มีการไปขุดโพสต์เก่าของFacebook ส่วนตัวของครูใหญ่ เป็นข้อความที่โพสต์เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ปี 2018 เป็นภาพ นักเรียนหญิงในชุดเนตรนารี พร้อมข้อความว่า “เธอเกิดช้าหรือฉันเกิดเร็ว” พร้อมข้อความที่ครูใหญ่พูดคุยกับผู้ติดตามในเรื่องดังกล่าว จนถูกแชร์ต่ออย่างมาก

ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้รับการตั้งข้อสงสัยเรื่องความเหมาะสม

เรื่องนี้ต่อมา ครูใหญ่ ก็ออกมายืดอกยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต และก่อนที่จะตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมืองก็เคยมีคนแนะนำให้ลบโพสต์ แต่ส่วนตัวก็ยืนยันว่าไม่ลบและขอยอมรับในความผิดพลาด อะไรที่โง่เขลา หรือเป็นแนวคิดที่บ้ง ก็ต้องยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง โดยไม่จำเป็นว่าผู้ติดตามหรือใครจะต้องมาช่วยเหลือ อาจจะถูกด่าก็ต้องยอมรับ

ติ่งไม่ต้องแบก-เอฟซี ไม่ต้องหาม

ครูใหญ่ – อรรถพล เขียนข้อความเปิดอกเรื่องดังกล่าวระบุว่า

โพสต์ดังกล่าวเป็นดังกล่าวพี่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นโพสต์จริง และผมได้โพสต์ด้วยตัวของผมเอง ไม่ใช่เฟคนิวส์ ใดๆ ทั้งสิ้น

การที่ผมโพสต์เช่นนี้เมื่อ 4-5 ปี ที่ผ่านมา ในขณะนั้นก็โพสต์ไปด้วยความรู้สึกชื่นชอบในฐานะเหมือนเน็ตไอดอลที่น้องกำลังฮือฮาเป็นที่พูดถึงและมีการแชร์ภาพน้องกันอย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ ผมเองก็มีการแชร์ภาพน้องอยู่หลายครั้ง รวมถึงภาพและข้อความในโพสต์นั้นด้วย

โดยที่ขณะนั้นผมก็อยู่ในช่วงวัยที่พอจะมีวุฒิภาวะบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้เรียนรู้ถึงประเด็นอ่อนไหวในเรื่องทำนองนี้ ขณะนั้นนั้นยังเห็นว่าการโพสต์รูปเน็ตไอดอลและคุณที่กำลังถูกสนใจบนโลกออนไลน์เป็นเรื่องปกติทั่วไป ไม่ได้คำนึงถึงว่าแม้น้องจะเป็นที่โด่งดังในโลกออนไลน์ในขณะนั้นแต่ก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ โดยที่ยังขาดการเข้าใจในประเด็นอ่อนไหวเช่นนี้

แม้ว่าช่วงที่จับพลัดจับผลูมาเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองใหม่ๆ จะมีคนแนะนำว่าให้ผมไล่ลบการโพสต์ต่างๆ บนออนไลน์ของตัวเองที่อาจเป็นประเด็นอ่อนไหวและถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งอาจไม่ส่งผลดีต่อตัวผมเองได้ แต่ผมก็ไม่ได้ไล่ลบประวัตินี้หรือประวัติใดๆ บนออนไลน์ตามคำแนะนำของผู้หวังดี เพราะคิดว่าจะไม่ปกบิดความโง่เขลา หรือแนวคิดบ้งๆ ของตัวเองที่เคยมีมาในอดีต และต้องเปิดอกยอมรับพร้อมขอโทษในความบ้งของตัวเองที่เคยมีมา

“ติ่งไม่ต้องแบก FC ไม่ต้องหาม นะครับ มันบ้งจริงๆ สมควรที่เขาจะด่า” ครูใหญ่ อรรถพล กล่าว

สำหรับ อรรถพล บัวพัฒน์ หรือ “ครูใหญ่” เป็นแกนนำกลุ่ม “ขอนแก่นพอกันที” เป็นชาวขอนแก่น ปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  สอนในระบบโรงเรียน ได้ปีครึ่ง เริ่มจากครูอัตราจ้างร.ร.รัฐบาล ลาออกมาสอน ร.ร. ทางเลือกของเอกชน ลาออกเป็นติวเตอร์เต็มตัว สอนวิชาภาษาไทยและสังคม ที่จ.ขอนแก่น

สนใจการเมืองจริงจัง 7-8 ปีที่ ผ่านมา โดยเฉพาะหลังรัฐประหาร  เคยเล่าบนเวทีปราศรัยว่า “แม่ผมเป็นสลิ่ม แต่สามารถเปลี่ยนแม่ที่เคยสนับสนุนคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.) ให้กลายมาเป็นคนที่มี ความคิดทางการเมืองเหมือนกันได้ด้วยวิชาตาสว่าง การต่อสู้นี้จะชนะหรือแพ้เรายังไม่รู้ แต่ผมมองว่าเราชนะในแง่ของการที่เราสามารถพูดทุกเรื่องได้แล้ว”

“ครูใหญ่” จัดเป็นดาวไฮด์ปาร์กที่สร้างสีสันบนเวทีปราศรัย ขึ้นพูดคราใดจะได้รับเสียงปรบมือและเสียงเฮลั่น  ถูกหมายเรียกจากสน.สำราญราษฎร์ และสน.ชนะสงคราม มาตรา 116 ข้อหาร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ