จากกรณีที่ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แนะนำหนังสือ “ทุนนิยมในศตวรรษที่ 21 : Capital in the Twenty – First Century” เขียนโดย Thomas Piketty (โทมัส พิเก็ตตี) นักเศรษฐศาสตร์ชาวฝรั่งเศส

โดยหนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลว่า กลไกอะไรที่ทำให้คนเรามีทุนไม่เท่ากัน ทำไมคนรวยรวยมากขึ้น โดยโทมัสใช้วิธีรวบรวมข้อมูลเป็นเวลายาวนาน ซึ่งรวบรวมทั้งข้อมูลด้านภาษี เงินเดือน รายได้ประชาชาติ ความมั่งคั่ง ผลตอบแทนรายปีของทุน ฯลฯ ครอบคลุมเวลาทั้งสิ้น 3 ศตวรรษ (ศตวรรษที่ 18 – ต้นศตวรรษที่ 21) จากมากกว่า 20 ประเทศ เมื่อได้ข้อมูลแล้วนำมาสังเคราะห์ และค้นหาแบบแผนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งถือเป็นการใช้ข้อมูลมากที่สุด ในช่วงเวลาที่นานมากที่สุด และในระดับที่ใหญ่ที่สุด

โฆษกรัฐบาล กล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ คือ การตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับการกระจายความมั่งคั่ง และจริงหรือไม่ที่พลวัตของการสะสมทุนเอกชน จะทำให้ความมั่งคั่งกระจุกตัวอยู่ในมือคนจำนวนน้อยลง หรือความสมดุลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การแข่งขัน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะลดความเหลื่อมล้ำ จนนำไปสู่ความกลมกลืนทางชนชั้นได้ในที่สุดใช่หรือไม่ รวมทั้งมีบทเรียนหรือความรู้อะไรบ้างที่ได้รู้จากวิวัฒนาการของความมั่งคั่งและรายได้ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นคำถามที่พยายามตอบโดยใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และเชิงเปรียบเทียบ

“นายกฯ อ่านหนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และนำมาใช้ในการบริหารบ้านเมืองเสมอ โดยเชื่อมั่นในการอ่าน ศึกษาเพิ่มเติมว่า จะช่วยพัฒนาระบบคิด ที่เป็นไปตามหลักการและเหตุผล โดยหนังสือเล่มนี้ เกี่ยวโยงถึงอดีต มุ่งเน้นไปที่ปัญหาเรื่องการกระจายความมั่งคั่งและรายได้ ใช้วิธีการรวบรวมข้อมูล ผ่านการศึกษาอย่างมีระบบและแบบแผน นำมาวิเคราะห์ ซึ่งนายกฯ เชื่อว่าจะเป็นตัวอย่างที่ต่อยอดแสวงหาทางออกในการแก้ไขปัญหาได้ โดยนายกฯ แนะนำหนังสือเล่มนี้ ให้เป็นหนังสือที่เพิ่มพูนความรู้ มุมมอง และแนวคิดแก่ผู้อ่าน เชื่อว่าอ่านแล้วได้ประโยชน์ นำมาประยุกต์ใช้ได้จริง” นายอนุชา กล่าว

ด้านสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ฝากข้อความไว้สุดแสบ ระบุว่า

“เล่มนี้ หนา 824 หน้า แบ่งเนื้อหาเป็น 4 ภาค รวม 16 บท ราคา 855 บาท  ฉบับภาษาไทย ตีพิมพ์ 2565 แนะคนอื่นอ่าน อ่านจบแล้วแน่นะ”

สำหรับหนังสือเล่มนี้ ผู้ที่ติดตามอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จัดรายการสื่อสารจากต่างประเทศมายังประชาชนในประเทศไทยบ่อยๆ ก็จะคุ้นเคยดี เมื่อเหลือบดูด้านหลัง จะเห็นหนังสือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวนมากตั้ง อยู่หลังอดีตนายกรัฐมนตรีสองสมัยผู้นี้ และเล่มนี้ก็คือหนังสืออีกเล่มที่โดดเด่นเช่นกัน

สำหรับหนังสือดังกล่าว ประเด็นหลัก นำเสนอ มุ่งเน้นไปที่ความมั่งคั่งและความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาฝรั่งเศส (ในชื่อ Le Capital au XXIe siècle) ในเดือนสิงหาคม 2013 แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย Arthur Goldhammer ตามมาในเดือนเมษายน 2014  ข้อเสนอหลักของหนังสือเล่มนี้คือ เมื่ออัตราผลตอบแทนต่อทุน (r) มากกว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (g) ในระยะยาว ผลที่ตามมาคือการกระจุกตัวของความมั่งคั่ง และการกระจายความมั่งคั่งที่ไม่เท่าเทียม จนทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ

สำหรับทางออก ผู้เขียนเสนอระบบภาษีความมั่งคั่งแบบก้าวหน้าระดับโลกเพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำและหลีกเลี่ยงความมั่งคั่งส่วนใหญ่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคนเพียงหยิบมือเดียว

หนังสือดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2014 ฉบับภาษาอังกฤษมียอดขายเป็นอันดับ 1 The New York Times Best Seller เป็นหนังสือปกแข็งที่ขายดีที่สุด และกลายเป็นยอดขายที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเท่าที่เคยมีมาของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในเดือนมกราคม 2015 หนังสือเล่มนี้ขายได้ 1.5 ล้านเล่มในภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน จีน และสเปน ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์สารคดีที่กำกับโดยผู้สร้างภาพยนตร์ชาวนิวซีแลนด์ จัสติน เพมเบอร์ตัน อีกด้วย

พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชาวอเมริกัน เคยยกย่องหนังสือดังกล่าวว่า  “เป็นหนังสือเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งปี – และอาจจะเป็นของทศวรรษ”