ผบ.ทร.เผยส่งมอบเรือดำน้ำดีเลย์เกินปี’67 ห่วงกระทบสัมพันธ์ ไทย-จีน รอเจรจา 3 ฝ่าย ดึง ธ.ค.นี้ หากไม่ตรงปกจ่อยกเลิกสัญญา

ความคืบหน้าการแก้ปัญหาเรือดำน้ำขาดเครื่องยนต์  ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวว่าช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 จะมีการประชุมระหว่างกองทัพเรือไทย ผู้ช่วยทูตทหารจีน และตัวแทนบริษัท CSOC ซึ่งเราจะดูว่าเขามีข้อมูลอะไรมานำเสนอ ซึ่งเราต้องการความชัดเจนว่าโครงการเรือดำน้ำจะขยายเวลาออกไปถึงเมื่อไหร่ เพราะต้องเตรียมในเรื่องงบประมาณมารองรับ มิเช่นนั้นจะตั้งงบประมาณไปทำโครงการอื่นไม่ได้ ก็เป็นเรื่องสำคัญ

สำหรับการขยายเวลาออกไปนั้น ก่อนหน้านี้มีการแก้ไขสัญญารับมอบเรือดำน้ำซึ่งของเดิมต้องส่งมอบกลางปี 2566 แต่เนื่องจากเกิดการระบาดโควิด-19 ทำให้โครงการดังกล่าวล้าช้า จึงขยับเวลาการส่งมอบมาเป็นกลางปี 2567

เมื่อถามว่าจะส่งมอบจะเกินปี 2567 หรือไม่ ผบ.ทร.กล่าวว่า คงดีเลย์เกินปี’67 ออกไป ปัจจุบันเกิดปัญหา ความล่าช้าในการจัดหาเครื่องยนต์ ทั้งนี้ หากการประชุมทั้ง 3 ฝ่ายที่จะเกิดขึ้นเดือน ธ.ค.นี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย กองทัพเรือจะนำเรียนให้ประชาชนได้ทราบถึงความคืบหน้าของโครงการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเทศปากีสถานจัดซื้อเรือดำน้ำและประสบปัญหาเช่นเดียวกับกองทัพเรือไทย ได้ให้ระยะเวลาในการทดสอบเครื่องยนต์ของจีนเป็นระยะเวลากี่เดือน พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า เท่าที่ตนทราบมีการทดสอบในช่วงแรกเสร็จสิ้นไปแล้ว และในช่วงที่สองจะเป็นข้อมูลในเรื่องรายการอะไหล่เครื่องยนต์ และรายการวัสดุต่างๆ ที่จะต้องมาทดแทน หากต้องเดินเครื่องจักรเป็นระยะเวลานานซึ่งก็ต้องขอทราบจากทางบริษัทก่อน

ถามว่ากรณีที่ต้องการให้กองทัพเรือจีนมารับประกันเครื่องยนต์เรือดำน้ำนั้น พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่ดี ทางบริษัทบอกกับกองทัพเรือไทยว่าถ้าไม่มีใครมารับประกัน กองทัพเรือไทยก็ไม่มั่นใจว่าเครื่องยนต์ดีจริง ซึ่งกองทัพเรือจีนก็คงไม่ให้เสียชื่อเสียง หากรับประกันแล้วเครื่องยนต์ของเขาไม่ดีจริง กองทัพเรือไทยก็อยากให้กองทัพเรือจีนมาร่วมรับประกันตรงนี้ด้วย และคงจะมีการเจรจาเดือน ธ.ค.นี้

เมื่อถามว่าเรามั่นใจ 80% ที่จะใช้เครื่องยนต์จีนใช่หรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ขอดูข้อมูลก่อนดีกว่า ให้เขาสร้างความมั่นใจให้กับเราก่อนว่าเครื่องที่นำเสนอมาใช้การได้จริงตามที่เขากล่าวอ้าง เราจะได้ดูว่าเขามีข้อมูลอะไรมานำเสนอให้กับเรา

ถามว่าหากไม่เป็นไปตามที่เขาเสนอ เรามีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ใช่ ตอนนี้เราก็ยังมีสิทธิยกเลิกได้ตลอด แต่ก็ต้องเจรจากันก่อน ซึ่งเขาก็พยายามเจรจากับกองทัพจีนให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ส่วนความกังวลในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า เราก็กังวล เราต้องรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเอาไว้ด้วย

เมื่อถามว่าช่วงประชุมเอเปคนายกรัฐมนตรีได้คุยกับประธานาธิบดีจีนด้วยหรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ท่านคงคุยกัน แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องเรือดำน้ำหรือไม่ เพราะท่านยังไม่ได้แจ้งอะไรมาทางกองทัพเรือ