ที่มา-ที่ไป ความสัมพันธ์ ทวิตเตอร์ กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนอีลอน มัสก์ สั่งยกเลิกการแบน

‘มัสก์’ ปลดแบนบัญชีทวิตเตอร์ ‘ทรัมป์’ หลังทำโพลสำรวจ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนว่า นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของทวิตเตอร์ แพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง ประกาศปลดแบนบัญชีผู้ใช้งานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังตั้งโพลสอบถามผู้ใช้งานทางทวิตเตอร์ว่าควรนำบัญชีทวิตเตอร์ของทรัมป์กลับมาหรือไม่ โดยกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจต้องการให้นำบัญชีทรัมป์กลับมาสู่ทวิตเตอร์

มัสก์ตั้งโพลดังกล่าวในบัญชีทวิตเตอร์ของตนเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมงเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน มีผู้ใช้งานทางทวิตเตอร์ที่ร่วมโหวตในผลสำรวจดังกล่าวกว่า 15 ล้านคน โดยผลสำรวจพบว่า 51.8% ต้องการให้นำบัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กลับมา เฉือนชนะผู้ที่ไม่ต้องการให้นำบัญชีของทรัมป์กลับมา ซึ่งอยู่ที่ 48.2%

หลังสิ้นสุดการโหวต นายมัสก์โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า “ผู้คนได้พูดออกมาแล้ว บัญชีของทรัมป์จะกลับมา” พร้อมทวีตข้อความอีกว่า “Vox Populi, Vox Dei” ซึ่งเป็นสุภาษิตภาษาละตินแปลได้ว่า “เสียงของผู้คน คือเสียงของพระเจ้า”

บัญชีผู้ใช้งานทางทวิตเตอร์ของนายทรัมป์ถูกแบนตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 จากเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนของทรัมป์บุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อที่จะล้มผลการเลือกตั้งสหรัฐที่นายทรัมป์พ่ายให้แก่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบัน

มิตรทางการเมืองของทรัมป์หลายคนก็ได้ออกมาแสดงความยินดีกับการกลับมาของบัญชีผู้ใช้งานในทวิตเตอร์ของนายทรัมป์แล้ว เช่นนายพอล โกซาร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐแอริโซนาของพรรครีพับลิกัน ที่ทวีตข้อความว่า “ยินดีต้อนรับกลับมา @realdonaldtrump!”

อย่างไรก็ดี นายทรัมป์เผยว่าตนจะไม่กลับไปใช้งานทวิตเตอร์ และจะเคลื่อนไหวใน Truth Social แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทรัมป์เป็นคนก่อตั้งขึ้นมาเองหลังถูกแบนจากทวิตเตอร์ นายทรัมป์กล่าวระหว่างปรากฏตัวทางออนไลน์ในการรวมตัวของผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันชาวยิวว่า ชื่นชอบตัวของนายมัสก์ และคาแรคเตอร์ของมัสก์ แต่จะไม่กลับไปใช้ทวิตเตอร์อีกต่อไปโดยให้เหตุผลว่าไม่มีเหตุอะไรให้ต้องกลับไป

เมื่อช่วงเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีหมายเลขหนึ่งของโลก เคยระบุว่า ทวิตเตอร์จะยกเลิกคำสั่งแบนการใช้งานของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หากการซื้อทวิตเตอร์ของเขาบรรลุผลสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย

มัสก์กล่าวว่า การสั่งระงับบัญชีทวิตเตอร์ของทรัมป์หลังเกิดเหตุจลาจลบุกรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ถือเป็นการตัดสินใจที่แย่ในทางศีลธรรมและโง่เขลาอย่างยิ่ง

“ผมคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดเพราะมันสร้างความแตกแยกขึ้นมากมายในประเทศ และในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้ทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ เงียบเสียงได้” มัสก์กล่าว และว่า เขาจะเลือกการระงับใช้บัญชีชั่วคราว และจะลงโทษเฉพาะเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือไม่ใช่นั้นก็เป็นเนื้อหาที่ส่งผลทำลายล้างโลก

ทั้งนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้แผลงฤทธิ์ไว้บนโซเชียลมากมาย ทั้งปลุกปั่นให้ผู้สนับสนุนของตัวเองค้านผลการเลือกตั้ง และป่าวประกาศว่าตนเองถูกโกง จนเกิดเหตุการณ์บุกยึดรัฐสภาของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม ล่าสุดบรรดาโซเชียลมีเดียได้แห่แหนแบนทรัมป์กันยกใหญ่ ทำเอาเจ้าพ่อโซเชียลอย่างทรัมป์ ไม่มีแพลตฟอร์มสำหรับสื่อสารกับกลุ่มผู้สนับสนุนของตัวเองเลยทีเดียว และนี่คือโซเชียลมีเดียทั้ง 7 แอพพ์ที่ทรัมป์ถูกแบน

ทวิตเตอร์ (Twitter)

เริ่มต้นจากทวิตเตอร์ โซเชียลมีเดียที่โดนัลด์ ทรัมป์ใช้เป็นประจำ โดยในวันที่ 8 มกราคม ทวิตเตอร์ได้ประกาศแบนบัญชีทวิตเตอร์ของทรัมป์อย่างถาวร หลังจากที่ได้ทวีตปลุกระดมกลุ่มผู้สนับสนุนของตนเองให้ออกไปชุมนุม และเผยแพร่ข้อมูลว่าตนเองถูกโกงทั้งที่ไม่มีหลักฐานมายืนยัน

เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม (Facebook-Instagram)

ในวันที่ 6 มกราคม เฟซบุ๊กได้บล็อกบัญชีของทรัมป์ไปจนสิ้นสุดการบริหารงานของทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคมเป็นอย่างน้อย เช่นเดียวกันกับอินสตาแกรม จึงทำให้ทรัมป์ไม่สามารถโพสต์ข้อความหรือรูปภาพใหม่ได้ หลังจากที่ทรัมป์ได้ลงคลิปที่อาจเป็นการส่งเสริมความรุนแรง ก่อนจะถูกเฟซบุ๊กลบไป โดยคลิปดังกล่าวถูกลบบนแพลตฟอร์มยูทูบและทวิตเตอร์เช่นเดียวกัน

ยูทูบ (Youtube)

หลังจากที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลายเจ้าได้ประกาศแบนบัญชีของโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ถึงคิวของยูทูบบ้าง โดยได้ออกประกาศระงับการใช้บัญชียูทูบของทรัมป์เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันนับตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ซึ่งทำให้ทรัมป์ไม่สามารถอัพโหลดวิดีโอใหม่ได้ หลังจากที่ทรัมป์ได้เผยแพร่วิดีโอที่เป็นการฝ่าฝืนกฎ และทางยูทูบมีความกังวลว่าทรัมป์จะเผยแพร่ข้อความที่เป็นการสนับสนุนการใช้ความรุนแรงอีก

สแนปแชท (Snapchat)

ด้านสแนปแชทก็ได้ประกาศบล็อกบัญชีผู้ใช้ของโดนัลด์ ทรัมป์เป็นการถาวร เมื่อวันที่ 13 มกราคม หลังจากผู้ให้บริการมีความกังวลว่านายทรัมป์จะใช้สแนปแชทในการสร้างความวุ่นวายในช่วงก่อนการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ

ทวิช (Twitch)

เมื่อวันที่ 7 มกราคม บัญชีทวิชของทรัมป์ถูกระงับการใช้งานไปจนกว่าทรัมป์จะลงจากตำแหน่ง เพื่อปกป้องชุมชนแห่งนี้จากความรุนแรง แม้ว่าวิดีโอเก่าๆจะยังสามารถดูได้เหมือนเดิม แต่ทรัมป์จะไม่สามารถสตรีมได้อีกเลยตราบเท่าที่บัญชียังถูกระงับการใช้งาน

พาร์เลอร์ (Parler)

พาร์เลอร์ เป็นแอพพ์ ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่อ้างว่ามีจุดเด่นในด้านเสรีภาพทางการพูดมากที่สุด โดยเมื่อวันที่ 10 มกราคม ทั้งกูเกิลและแอปเปิลได้นำแอพพ์ พาร์เลอร์ ออกจากเพลย์สโตร์และแอพสโตร์ที่ตนเองเป็นผู้ให้บริการ ส่วนเว็บแอมะซอนก็หยุดให้การสนับสนุน หลังจากที่พบข้อความสนับสนุนความรุนแรงเป็นจำนวนมาก