วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ข่าวเดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า สมาคมที่พักอาศัยออกมาเปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดระบุว่า ชาวฮ่องกงที่ยากจนมีพื้นที่ใช้สอยในบ้านน้อยกว่าผู้ต้องขังในเรือนจำการป้องกันระดับสูง โดยการศึกษาจากการสำรวจ 204 ครัวเรือนในชุมชนแห่งหนึ่ง โดยเฉลี่ยพื้นที่ใช้สอยต่อคนมีขนาดราว 50 ตารางฟุต หรือ 4.6 ตร.ม.หรือเทียบได้กับพื้นที่ลานจอดรถครึ่งเดียว ฉายภาพแบบเดียวกับนักโทษในห้องขังและอยู่ในพื้นที่น้อยกว่าห้องขังที่มีขนาดอยู่ราว 75 ตารางฟุต

แม้ฮ่องกงเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในโลก และมีรัฐบาลที่เปี่ยมด้วยเงินทุนสำรองกว่า 100 ล้านปอนด์ แต่ถึงอย่างนั้นฮ่องกงยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูงมาก เพราะมีตลาดบ้านจัดสรรที่แพงที่สุดในโลกและโดยเฉลี่ยผู้อยู่อาศัยต้องมีเงินฝากที่ไม่หักภาษีมากกว่า 18 ปี ไม่ต้องใช้จ่ายอะไรนอกจากเพื่อซื้อบ้านซักหลัง และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านพุ่งทะยาน เพิ่มขึ้นโดยนักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และรัฐบาลไม่สนใจจัดการกับนักพัฒนาที่ทรงอำนาจ

จากข้อมูลของรัฐบาลเมื่อปี 2016 ระบุว่ามีประชาชนราว 2 แสนคนในแฟลตแบบแบ่งห้อง โดยครอบครัวที่อาศัยอยู่กว่า 65% ใช้พื้นที่ต่อหน่วยระหว่าง 75 ถึง 140 ตารางฟุต หรือ 7-13 ตร.ม. ซึ่งบ้านแบ่งเช่าเหล่านี้ถูกสร้างบนยอดหลังคาอย่างผิดกฎหมาย เป็นห้องไม่มีหน้าต่างที่กลายเป็นห้องแคบ 2 ที่นอน ขณะที่เรื่องราว “บ้านขนาดโลงศพ” ได้รับความสนใจมากขึ้น แฟลตแบ่งห้องถือว่าเป็นความจริงยิ่งกว่าให้กับหลายครอบครัว

นายหลิว เฉิง ไว่ อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกสาววัย 9 ปี ในกระท่อม 2 ห้องที่ถูกสร้างท่ามกลางเขาวงกตของยอดหลังคาตึกสูง นายหลิวย้ายจากจีนเมื่อ 5 ปีก่อนกับครอบครัวเพื่อหาโอกาสลูกสาวได้เรียนดีและค่าตอบแทนที่สูงขึ้น

นายหลิวกล่าวว่า นี่เป็นทั้งหมดที่เราพยายาม ผู้ย้ายหน้าใหม่หลายคนอยู่ในพื้นที่แบบนี้เป็นครั้งแรก แต่ตนไม่คิดว่าเราจะอยู่แบบนี้ไปอีกหลายปี ทั้งนี้ ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดราว 170 ตารางฟุต ซึ่งมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยจากการศึกษา แม้บ้านของพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา

ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนางแครี่ แลม หัวหน้าบริหารงานเกาะฮ่องกงถูกบังคับให้ขอโทษที่ประเมินจำนวนแฟลตสาธารณะที่รัฐบาลต้องสร้างต่ำไป โดยนางแลมแนะว่ายังมีอีก 44,000 ยูนิตที่รองรับเพียงพอ ขณะที่ยังมีกว่า 150,000 ครอบครัวยังคงรอเข้าอาศัยบ้านที่รัฐบาลจัดหามาให้