‘สุพันธุ์’ ติงคนละครึ่งเฟส 6 แจกเงินซ้ำซาก แก้ไม่ถูกจุด ต้องเร่งแก้หนี้-ลดค่าครองชีพ

เกาไม่ถูกที่คัน! ‘สุพันธุ์’ ติงคนละครึ่งเฟส 6 ประชานิยมแจกเงินซ้ำซาก แก้ปัญหาไม่ตรงเป้า เพราะคนหมดเงินใช้จ่าย ต้องเร่งแก้หนี้-ลดค่าครองชีพก่อน

 

วันที่ 19 ตุลาคม 2565 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงกระแสข่าวเรื่องการออกมาตรการคนละครึ่ง เฟส 6 ที่จะมีการนำเข้าที่ประชุมครม. ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ถูกจุดและแก้ปัญหาได้ไม่ตรงเป้า

นายสุพันธุ์ ระบุว่า หากดูตัวเลขของโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ในปัจจุบัน ที่ผ่านเวลาไปแล้วเกิน 70 % ของระยะเวลาโครงการที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ในวงเงิน 800 บาท มีผู้ใช้สิทธิ์จนครบวงเงินแล้วประมาณ 8.75 ล้านคน หรือเพียง 36% ของผู้เข้าร่วมโครงการ และ มีร้านค้าที่เข้าร่วมโรงการลดลงเหลือเพียง 9.75 แสนร้านค้า จาก 1.3 ล้านแห่ง หรือมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการน้อยลงกว่า 3 แสนแห่ง สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวได้รับความสนใจน้อยลงจากประชาชน ทั้งๆที่ในช่วงปลายปีมักจะเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอบที่ค่อนข้างสูง

นายสุพันธุ์ กล่าวต่อว่า มาตรการคนละครึ่งเอง รวมไปถึงมาตรการซอฟท์โลนที่ไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ เสียที เนื่องจากการที่ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลงสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะประชาชนเอง ไม่มีเงินในกระเป๋าเพียงพอที่จะใช้จ่าย มาตรการที่ออกมาจึงควรจะเปลี่ยนจากมาตรการที่เน้นแจกเงินแบบประชาชนิยม แต่เปลี่ยนมาเป็นมาตรการที่ลดค่าครองชีพแทน โดยเฉพาะมาตรการที่เกี่ยวกับการลดหนี้ และลดดอกเบี้ยของประชาชนในระบบ เพราะแม้รัฐจะออกมาตรการมาให้ประชาชนใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อประชาชนไม่มีเงินที่จะไปใช้จ่ายก็ทำให้มาตรการต่างๆ ที่ออกมาไปไม่ถึงเป้า เพราะประชาชนต้องนำเงินไปใช้จ่ายกับภาวะหนี้สิน

นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ที่สำคัญในช่วงนี้คือสภาวะน้ำท่วม ที่เมื่อน้ำท่วมก็ทำให้โอกาสในการออกไปจับจ่ายใช้สอยเป็นเรื่องยากขึ้น รัฐจึงควรเร่งเยียวยาปัญหาน้ำท่วมก่อนและอีกเรื่องที่ควรเร่งแก้คือการวางมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน จัดการระบบชลประทานใหม่ทั้งระบบ เพื่อที่ประชาขนไม่ต้องทนกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ที่กระทบต่อเศรษฐกิจของประชาชน ลดค่าใช้จ่ายของรัฐที่ต้องมาจ่ายเยียวยาค่าเสียหายทุกปี เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทางชลประทานเพียงครั้งเดียวที่จะทำให้ประชาชนสร้างผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างยั่งยืนและลดค่าใช้จ่ายระยะยาวของรัฐในแต่ละปีลง

“ปัญหาใหญ่ของทุกวันนี้คือปัญหาหนี้ เพราะการเป็นหนี้ทำให้คนไม่มีกำลังซื้อที่มากเพียงพอที่จะออกมาจับจ่ายได้แม้แต่ครึ่งเดียว สิ่งที่รัฐควรทำในช่วงนี้คือการเร่งแก้หนี้และดอกเบี้ยที่สะสมอยู่ในระบบมากกว่า ออกมาตรการแจกเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่วันนี้เราเห็นแล้วว่าไม่สามารถทำได้ตามเป้า และมีเงินค้างอยู่ในระบบจำนวนมาก หากพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรับบาลสิ่งที่ทางพรรคจะทำคือการเร่งแก้หนี้ แก้ปัญหาดอกเบี้ย เพราะปัญหาหนี้เป็นปัญหาหลักที่ลดทอนกำลังซื้อและความสามารถในการใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน” นายสุพันธุ์กล่าว