ทำไมไม่ทำ! “จาตุรนต์” จี้รัฐบาลแก้นโยบายยาต้านโควิดให้ถูกต้อง ปชช.เข้าถึงง่าย อย่าทำให้ยากเย็น

อดีตรองนายกฯ ชี้ยาต้านโควิด ทำไมรัฐบาลไม่ทำให้ถูกต้อง บีบปชช.-เอกชนต้องดิ้นรนหาจนถูกมองเป็นอาชญากร

 

วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดของรัฐบาลในเรื่องยาต้านโควิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า

ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อตามแพทย์ว่ามีคนติดเชื้อวันหนึ่งหลายหมื่นคน
แต่ทำไมยาต้านไวรัส จึงยังมี “นโยบายผิดๆ” ไม่ยอมแก้ให้ถูกเสียที และจงใจทำให้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) รัฐบาลบอกว่ามีสต๊อคไว้พอแน่ๆ แต่พอมีคนบอกว่าขาดยา รัฐบาลก็ชี้แจงว่าเป็นเพราะมีการใช้กันมาก

แต่ที่แน่ๆมีคนโวยอยู่เรื่อยๆว่ากว่าจะได้ยาเป็นเรื่องยากเย็น

ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molmupiravir) ซึ่งแพทย์พูดตรงกันว่าดีกว่าฟาวิฯแน่ๆ ยิ่งหายาก โรงพยาบาลเอกชนจะจ่ายยานี้ ต้องเบิกจากโรงพยาบาลของรัฐ จึงใช้เวลานานกว่าคนไข้จะได้รับจนป่วยหนักแล้วจึงได้ หรือไม่ก็ไม่ได้ยานี้เลย

ยานี้ถ้าหาซื้อจากลาวได้จะราคาชุดละประมาณ 500 – 1,500 บาท หากหาซื้อจากเอกชนที่มีนำเข้ามาจากต่างประเทศอยู่บ้าง จะราคาประมาณ ชุดละ 1,800-1,900 บาท บางคนไปซื้อมาชุด 15,000 บาทก็มี แต่แปลกที่รัฐบาลไทยขายให้โรงพยาบาลเอกชน ตามข่าวระบุว่าขายให้ชุดละ 10,600 บาท

ยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้และผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐบอกว่ามีประสิทธิผลสูงถึงประมาณ 90 % ในสหรัฐมีสต๊อคอยู่ตามร้านขายยาจนล้น รัฐบาลสหรัฐต้องพยายามสื่อสารให้ประชาชนรู้จักและจะได้ใช้กันมากขึ้น เมื่อหมอตรวจเจอก็สั่งจ่ายได้เลย ประชาชนใช้ฟรี
แต่ในเมืองไทย มีคนรู้จักสามารถหามาได้ชุดละ 15,000 บาท หรืออีกคนหามาได้ชุดละ 30,000 บาท

จริงๆแล้ว ยาต้านไวรัสเหล่านี้ ถ้าเปิดให้มีการนำเข้ามาขายอย่างถูกต้อง รัฐบาลยังสามารถจ่ายค่ายาให้ประชาชนใช้ฟรีก็ยังได้

คำถามคือแล้วทำไมไม่ทำ ทำไมจึงจงใจทำให้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และไปจ้องจับผิดบริษัทเอกชนที่เขานำเข้ายาเข้ามาหรือประชาชนที่ดิ้นรนหายามาใช้กันเองราวกับเป็นอาชญากร ทำให้หายากันไม่ได้หรือที่หาได้ก็ราคาแพงลิ่ว

หรือทั้งหมดนี้เป็นเพราะรัฐบาลไปซื้อยาที่เขาไม่นิยมใช้กันแล้วเข้ามามากเกินไป ถ้าปล่อยตกค้างไว้มากๆก็จะเสียหน้า เลยต้องหาทางบีบให้ใช้ยาที่รัฐบาลมีอยู่ให้หมดเสียก่อน ท้ายที่สุดความยากลำบากตกอยู่ที่ประชาชนครับ