“ธรรมนัส” ยืดอก เป็นฝ่ายค้าน 100% พร้อมตอบปมจะร่วมงาน “เพื่อไทย” หรือไม่ ?

“ธรรมนัส” ยืดอก เป็นฝ่ายค้าน 100% แบะท่าพร้อมร่วมงาน “เพื่อไทย” เผย เคลียร์ “บิ๊กป้อม”เข้าใจ แจงไม่ได้ขอให้โหวตช่วยใคร รับ 8 จ.ภาคเหนือ ไม่เอารัฐบาล

วันที่ 13 ก.ค.65 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ ถึงการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล พร้อมประกาศเป็นฝ่ายค้านหลังพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต4 ว่า รู้ดีว่าการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เกิดอะไรขึ้น และไม่คาดคิดว่าผลจะออกมาอย่างนี้ ทำให้ตนและคณะกรรมการบริหารพรรค ต้องมาทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น

ย้อนไปดูปัจจัยเมื่อปี 2562 ข้อมูลว่าฐานคะแนนของเราอยู่ที่ 30,368 คะแนน แต่โดยภาพรวมคะแนนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใน จ.ลำปาง จะได้กว่า 140,000 คะแนน ทำให้รู้ว่าฐานมีเท่านี้ขายไม่ได้ และเมื่อการเลือกตั้งซ่อมปี 2563 มีปัจจัยหลายอย่าง ผลงานของรัฐบาล โดยเฉพาะจัดสรรที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากผลงานของรัฐบาล จึงประมาณได้ 61,914 คะแนน พรรคเสรีรวมไทยได้ 38,336 คะแนน

แต่การเลือกตั้งครั้งนี้คะแนนสวิงกลับ แต่คงไปโทษรัฐบาลไม่ได้ เราลงพื้นที่ทราบว่าประชาชนบ่นว่าไม่ค่อยสบายใจในเรื่องความไม่ชัดเจนของพรรคเศรษฐกิจไทย สรุปแล้วอยู่ฝ่ายใดกันแน่ ส่วนพรรคเสรีรวมไทย หาเสียงประเด็นเดียว คือจุดยืนที่ไม่แน่นอนของพรรคเศรษฐกิจไทย ทำให้เราพ่ายแพ้ในครั้งนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เราสบายใจอยู่คือฐานคะแนนเสียงของเรายังเท่าเดิม

“การต่อสู้ตรงนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายรัฐบาล ซึ่งประชาชนภาคเหนือตอนบน อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน และลำปาง เขาไม่เอารัฐบาล”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า เมื่อประชาชนภาคเหนือตอนบน ไม่เอารัฐบาล ทำให้พรรคเศรษฐกิจไทย ต้องไปร่วมงานฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตั้งแต่ตนถูกขับออกจากรัฐมนตรี ก็ประกาศชัดเจนว่าอยู่ข้างประชาชน แต่ประชาชนไม่เข้าใจว่าอยู่ข้างประชาชน เพราะยังเห็นการโหวตเรื่องงบประมาณปี 2566 จึงต้องประกาศให้ชัดเจนว่าจะมาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ

ดังนั้นพรรคเศรษฐกิจไทย ต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าควรจะทำให้หน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ตนไม่ได้ว่าตนดี ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี จนออกจากรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองที่อยู่ในพื้นที่มาตลอด ไม่ใช่เฉพาะภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่เดินทางทุกจังหวัด รับทราบความรู้สึกของประชาชนดี ว่าวันนี้ประเทศเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการบริหารราชการแผ่นดิน

เราควรแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน เพราะประชาชนเบื่อหน่ายหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นถามว่าจะทำให้เราเสียมวลชนจากภาคอื่นหรือไม่ ตนมีความมั่นใจว่าเสียงสะท้อนจากว่าที่ผู้สมัครของเรา คือเสียงสะท้อนจากประชาชน

เมื่อถามว่า การประกาศร่วมทำงานกับฝ่ายค้าน หมายถึงการทำงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การที่ให้ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ลาออกจากวิปรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาเป็นวิปมาตลอดตั้งแต่เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อออกมาแล้วควรให้ชัดเจนตามมารยาททางการเมือง และวันนี้ผู้นำฝ่ายค้านยังไม่ได้คุยกับเรา จึงยังไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน แต่อยู่ในขั้นตอนต่อไปที่ต้องคุยกันต่อ

เมื่อถามว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำงานร่วมกับฝ่ายค้านเลยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราประกาศว่าเราทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติ ก็คงทำงานในทิศทางเดียวกันกับฝ่ายค้าน

“ผมได้คุยทางโทรศัพท์ และเรียน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชัดเจนแล้วว่า ขออนุญาตประกาศจุดยืนของพรรคอย่างชัดเจน ผมเล่าให้ฟังว่าผลการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ว่าเกิดอะไรขึ้น เราเหมือนพรรคอยู่ตรงกลางของเขาควายสองข้าง มันไม่ชัดเจน ฝ่ายรัฐบาลเขาไม่ได้สนับสนุนเรา และเราไม่ได้ประโยชน์อะไรจากฝ่ายรัฐบาล

อีกทั้งยังถูกกระทำหลายเรื่อง ผมไม่อยากพูดตรงนี้ อีกข้างของเขาควายเขาก็ไม่ได้สนับสนุนเรา ดังนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมานั่งตรงกลางของเขาควาย จึงต้องเลือกข้างให้ชัดเจน ผมก็ได้เรียนพล.อ.ประวิตร ซึ่งพล.อ.ประวิตร มีความเข้าใจและถามว่าทำไมออกมาเป็นฝ่ายค้าน 100% ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร รั้งให้อยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ตัดพ้ออะไร ตนเรียนข้อเท็จจริงด้วยเหตุผล แต่เมื่อเรามีเหตุผลท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ เคารพการตัดสินใจของตน หลังจากที่ตนกลับเข้ากทม.ในวันที่ 15 ก.ค.นี้แล้ว ตนจะประสานเพื่อเข้าพบพล.อ.ประวิตรอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

เมื่อถามย้ำว่า การโหวตซักฟอก พล.อ.ประวิตร ขอให้โหวตใครบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้ขอ แม้แต่ตัว พล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้ขอ

เมื่อถามว่า ตัวของพล.อ.ประวิตร พรรคเศรษฐกิจไทยคงไม่แตะ แต่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีการขอไว้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้พูดถึงการโหวตการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พูดถึงเหตุผลการออกมาเป็นฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า ตัวของ ร.อ.ธรรมนัส และพรรคเศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปได้หมด