วันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากสถานการณ์ราคาหมูเป็นราคากำลังตกต่ำ ส่งผลให้ประชาชนที่เลี้ยงหมูตามบ้านเรือนในหลายพื้นที่ เช่น อ.ปง จ.พะเยา ตัดสินใจนำหมูมาล้มหรือฆ่าและขายเอง โดยวิธีการขายทั้งแบ่งเค้กขายเหมาเป็นกอง หรือขายตามเขียงเล็กๆ หน้าบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงพ่อค้าหมูกดราคา

นางชิน ใจเย็น อดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า ปกติช่วงออกพรรษาประชาชนในหมู่บ้านชนบทต่างนิยมนำหมูเป็นมาล้มและแบ่งออกเป็นกองๆ แต่ละกองจะมีทั้งเนื้อแดง หนัง มัน สามชั้น เครื่องใน คือโดยรวมหมูทั้งตัวจะถูกนำมาแบ่งปันสัดส่วนที่เท่ากันตามวิธีการขายหมูแบบโบราณดั้งเดิม ทางภาคเหนือเรียกการแบ่งปุ้น (กอง) เป็นลักษณะการขายเหมา ในวันก่อนออกพรรษา ปี 2560 นี้เช่นกัน ประชาชนในหมู่บ้านผาตั้ง และอีกหลายหมู่บ้านใน อ.ปง ต่างได้นำหมูของตนเองที่เลี้ยงไว้มาฆ่าแล้วแบ่งกองขายเหมา กองละ 500 บาท กองหนึ่งจะมีน้ำหนักประมาณ 5-6 กก. คนซื้อเลือกได้ตามใจชอบและได้ราคาถูกว่าซื้อในตลาด ขณะที่คนเลี้ยงหมูก็ขายหมูเป็นได้ราคาดีกว่าขายให้พ่อค้าหมู วิน-วินทั้งสองฝ่าย

“หมูเป็นขณะนี้ราคา กก.ละ 38-40 บาท คนเลี้ยงหมูประสบปัญหาอย่างหนัก ดังนั้น การฆ่าหมูและแบ่งขายเป็นกองเหมาแบบพื้นบ้าน ทำให้คนเลี้ยงหมูสามารถขายหมูเป็นได้ราคาดีกว่าขายให้พ่อค้าหมูคนกลางที่นำไปฆ่าขายตามตลาดสดที่กดราคาหมูเป็นแต่ขายเนื้อหมูชำแหละราคาแพง กก.ละ 100-120 บาท” นางชินกล่าว

ด้านนายอนุรักษ์ โปร่งสุยา นายก อบต.ออย อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า ใน ต.ออย คนเลี้ยงหมูส่วนใหญ่เริ่มนำหมูมาชำแหละขายกันเองแล้ว เพราะพ่อค้าหมูที่รับซื้อหมูเป็นเอาเปรียบคนเลี้ยงหมู ซื้อหมูเป็นราคา กก.ละ 40-50 บาท แต่เมื่อนำไปชำแหละจะขายราคาแพงดังเดิม ราคาเฉลี่ย กก.ละ ไม่ต่ำกว่า 100 บาท เพราะคนเลี้ยงหมูที่ต้องใช้หัวอาหารเลี้ยงทำให้ต้นทุนสูง อาหารหมูจากบริษัทนายทุนใหญ่ไม่ลดราคา ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงหมูยังสูงคงเดิม ดังนั้น การที่คนเลี้ยงหมูตัดสินใจล้มหมูและขายเองจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการค้าขายในขณะนี้ สำหรับท้องถิ่นกำลังหาวิธีช่วยให้คนเลี้ยงหมูมีสถานที่ฆ่าหรือล้มหมูที่สะอาดภายในพื้นที่ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย