สิงคโปร์เล็งนำเข้าไก่จากอินโด แก้ปัญหาอุปทานในปท. หลังโดนพิษมาเลย์แบนส่งออก

เดอะ สตาร์รายงานเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนว่า สิงคโปร์กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการนำเข้าไก่มาจากประเทศอินโดนีเซียแทน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องอุปทานไก่ในประเทศ หลังจากมาเลเซียประกาศห้ามส่งออกไก่ ซึ่งทำให้สิงคโปร์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากนำเข้าไก่จากมาเลเซียมากถึง 1 ใน 3

โดยองค์การอาหารสิงคโปร์(เอสเอฟเอ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางการอินโดนีเซีย เพื่อสำรวจการรับรองคุณภาพของอินโดนีเซียว่าเป็นแหล่งการนำเข้าไก่ที่มีศักยภาพ ซึ่งในกระบวนการรับรอง เอสเอฟเอจะทำการประเมินเอกสารและลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าสถานประกอบการและฟาร์มเลี้ยงในต่างประเทศ สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดการนำเข้าและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยด้านอาหารของสิงคโปร์ ก่อนที่จะเริ่มส่งออกมายังสิงคโปร์ได้

ด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์และสุขภาพ กระทรวงเกษตรของอินโดนีเซีย เปิดเผยในวันเดียวกันว่า ทีมงานของเอสเอฟเอได้เดินทางมาอินโดนีเซียตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายนแล้ว เพื่อทำการประเมินฟาร์มเลี้ยง โรงฆ่าสัตว์ โรงงานแปรรูป และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียจะส่งออกไก่เป็นหรือไก่แช่แข็งให้กับสิงคโปร์หรือไม่ จำนวนเท่าใดและเริ่มส่งออกได้เมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับผลของการสำรวจดังกล่าว

ทั้งนี้อินโดนีเซียไม่เคยขายไก่ให้กับสิงคโปร์มาก่อนและตอนนี้มีเพียงการส่งออกไข่เค็มราว 5 หมื่นฟองต่อเดือนให้กับสิงคโปร์เท่านั้น อย่างไรก็ดี อินโดนีเซียมีการส่งลูกไก่ไปยังชาติเพื่อนบ้านบางประเทศอย่างเช่น เวียดนามและเมียนมา และมีการส่งออกไก่แช่แข็งและผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูป เช่น ไก่นักเก็ตและไส้กรอก ไปยังหลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่นและติมอร์ตะวันออกด้วย

ข้อมูลของกระทรวงการค้าอินโดนีเซียระบุว่า ไม่กี่ปีมานี้อินโดนีเซียเผชิญกับอุปทานไก่ล้นตลาด โดยผลิตได้สูงกว่าอุปสงค์ในประเทศราว 15% ในช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 แต่สถานการณ์เลวร้ายในช่วงการระบาดใหญ่ที่อุปทานไก่พุ่งสูงถึง 48% ในปี 2020 และ 36% ในปี 2021 ขณะที่ในปีนี้อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรกว่า 270 ล้านคน มีความต้องการไก่ราว 2,900 ล้านตัว แต่คาดว่าจะผลิตได้ถึง 3,800 ล้านตัว ซึ่งจะทำให้มีอุปทานเกินอยู่ราว 900 ล้านตัว