“อภิสิทธิ์”เชื่อ คำพิพากษา “คดียิ่งลักษณ์” ไม่ทำสถานการณ์การเมืองรุนแรงขึ้น

เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องการอุทธรณ์เป็นสิทธิที่มีขึ้นโดยผลของรัฐธรรมนูญ การใช้สิทธิรูปแบบจะเป็นอะไรอย่างไรนั้นต้องไปดูว่าจะใช้สิทธิ์ในรูปแบบไหนอย่างไรตามกฎหมาย แต่ถ้าถามว่าสิทธิ์ในการอุทธรณ์มีหรือไม่ ต้องบอกว่ามีตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะหากไม่มีการอุทธรณ์ก็ถือว่าคดีก็ถึงที่สุดแล้ว เมื่อถึงที่สุดแล้วก็เป็นเรื่องของการที่จะบังคับคดี ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ที่จะต้องตามตัวผู้กระทำความผิดมา ทำได้มากน้อยแค่ไหนก็อยู่ทั้งที่ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ใครมีหน้าที่ต้องปฏิบัติไป

เมื่อถามว่าเรื่องจะมีกระทบต่อบรรยากาศทางการเมืองในขณะนี้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีผลกระทบในทางการเมือง โดยดูจากกระแสความรู้สึกต่างๆ ซึ่งเทียบกับเมื่อเดือนที่แล้วเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมนั้น ดูเหมือนอารมณ์ กระแสของผู้คนโดยทั่วๆ ไปก็ลดลงไปพอสมควร เนื่องจากว่าตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่อยู่ ก็ไม่ควรเป็นปัญหาอะไร ทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย การเมืองก็ต้องเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามอีกว่า ต่างประเทศจะมองว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงมีความพยายามในการที่จะต่อสู้ทำนองนั้น พอเป็นคำว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำว่าการเมืองเข้าไปบางทีก็ทำให้เกิดความสับสน หรือมีการไปโต้แย้งกันว่าเป็นการเมืองหรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องไปพิสูจน์กันว่ากระบวนการที่เดินไปนี้มีอยู่ในกฎหมายอะไรอย่างไร และกฎหมายนี้ก็มีมาตั้งแต่ปีไหน กระบวนการผ่านใครมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และอัยการ ซึ่งมีความอิสระ หรือไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องก็ต้องชี้แจง