“สมชัย-พรสันต์” มองปมสีปากกา บทสัมภาษณ์-เอกสารขัดกันเอง ยันคำสั่งขัดรธน.ละเมิดสิทธิ

วันที่ 22 พฤษภาคม สืบเนื่องกรณี ‘สีปากกา’ ที่ใช้ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก.ซึ่งเกิดความสับสนในวันนี้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ข้อความตั้งคำถามผ่านเฟซบุ๊กว่า ข่าวที่ปรากฏในการให้สัมภาษณ์ และเอกสารที่เผยแพร่มีความขัดแย้งกันเอง ถามว่าชาวบ้านที่ไหนจะเปิดข้อกฎหมายดูก่อนไปเลือกตั้ง

ความดังนี้

ดราม่า สีหมึกปากกา ที่ไปสิทธิเลือกตั้ง
กกต.เขาจัดปากกาไว้ในคูหา เราอยากเอาปากกาของเราไปเอง เพราะไม่อยากติดโควิด แต่มีข่าวปล่อย ข่าวสัมภาษณ์ และข่าวเอกสารเผยแพร่ ดูขัดกัน น่าสับสน
ข่าวปล่อยว่า ต้องใช้สีน้ำเงินเท่านั้น
ข่าวสัมภาษณ์ ประธาน และ เลขา บอกว่าต้องใช้สีน้ำเงินเท่านั้นเหมือนกัน
ข่าวเอกสารเผยแพร่ บอกสีอื่นได้ ยังไม่เป็นบัตรเสีย เพราะการพิจารณาเป็นบัตรเสียให้เป็นไปตามมาตรา 100 ของ พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น
ชาวบ้านที่ไหนจะไปเปิด พ.ร.บ. ดูก่อนเลือกตั้ง
ใน (2) ของมาตรา 100 พ.ร.บ. เลือกตั้งท้องถิ่น บอกว่าบัตรเสียคือบัตรที่มีการทำเครื่องหมายเป็นที่สังเกต ดังนั้น หากใช้ สีแดง สีชมพู สีฟ้า สีประกายรุ้ง ต่าง ๆ ก็อาจตีความได้ว่า เป็นทำให้เป็นที่สังเกตได้
ปลอดภัยสุด จึงแนะนำว่า ให้ใช้สีน้ำเงิน หรือ ใกล้เคียงสีน้ำเงิน เช่น สีดำ ได้ครับ
ส่วนจะด่าใคร ที่ทำให้เกิดดราม่า เชิญว่ากันเอง’

ขณะที่ ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ถึงกรณีดังกล่าว โดย ระบุว่า เรื่องดังกล่าวตนเองมองว่า กรรมการการเลือกตั้งที่ให้สัมภาษณ์น่าจะเข้าใจผิด  เรื่องบัตรเลือกตั้งจะเสียหรือไม่เสีย ต้องดูที่หลักการทางกฎหมาย โดยบัตรเลือกตั้งที่ถูกจัดเป็นบัตรเสีย หลักการคือ บัตรเลือกตั้งที่ไม่สามารถระบุหรือบ่งบอกถึงเจตนารมณ์ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ไม่สามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่าผู้ใช้สิทธิเลือกใคร นี่คือหลักการสำคัญสุด เมื่อไปดูที่ พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น บัตรเลือกตั้งที่ให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย คือ บัตรปลอม บัตรที่มิได้ทำเครื่องหมายลงคะแนน บัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเกินจำนวนผู้บริหารท้องถิ่นที่พึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น และบัตรที่ไม่อาจทราบได้ว่าลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครใด เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าหลักการสำคัญของกฎหมายก็คือบัตรเสียคือบัตรที่ไม่สามารถบ่งชี้เจตนารมณ์ของผู้ใช้สิทธิได้นั่นเอง ทั้งนี้ในปัจจุบันเกิดการระบาดของโรค ก็ยิ่งจำเป็นที่จะต้องดูถึงเจตนารมณ์ของผู้ใช้สิทธิเป็นหลัก มากกว่าที่จะมาดูเรื่องข้อบังคับหยุมหยิม   ทั้งนี้ในเชิงนโยบายการอนุญาตให้พกปากกามาเองแล้วไปกำหนดว่า ต้องเป็นปากกาสีน้ำเงินเท่านั้น ถึงจะถือว่าเป็นบัตรดี

ส่วนตัวมองว่าเป็นการกำหนดที่จำกัดสิทธิการเลือกตั้งอย่างยิ่ง โดยเฉพาะไม่ได้มีกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับข้อใดที่ไปกำหนดเรื่องแบบนั้น เป็นคำสั่งที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ล่วงละเมิดสิทธิผู้ใช้เลือกตั้งจนเกินกว่าเหตุ สร้างภาระให้กับประชาชนมากเกินไป ถ้าบ้านของผู้ใช้สิทธิไม่มีปากกาสีน้ำเงินก็ต้องไปหาซื้อมาใช่หรือไม่?  เงื่อนไขเหล่านี้มันกระทบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง