ปังเกินต้าน! คำชมท่วมท้น “มิลลิ” โกอินเตอร์ งาน #Coachella “ข้าวเหนียวมะม่วง” ก็พุ่งตาม

วันที่ 17 เม.ย.2565 ถือเป็นความฮือฮาไปแล้ว สำหรับ “มิลลิ (Milli) หรือ ดนุภา คณาธีรกุล แร็พเปอร์สาวมากความสามารถ วัย 18 ปี ที่ได้ร่วมโชว์ฝีมือในเวที Coachella งานเทศกาลดนตรีระดับโลก ที่สหรัฐอเมริกา โดยร่วมกับทีมศิลปินเอเชียของ 88rising ค่ายเพลงดาวรุ่งรุ่นใหม่ที่ได้เชิญมิลลิมาร่วมงาน และได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานดนตรีรวมถึงแฟนเพลงในไทยที่ติดตามถ่ายทอดสด ที่มิลลิได้วาดลวดลายเพลงแร็ป ทั้ง “สุดปัง” และ “Mirror Mirror” ก่อนปิดการแสดงของตัวเอง ด้วยการกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์กลางคอนเสิร์ต แล้วการกินขนมยอดนิยมของไทยกลางงานเพลงของมิลลิ ก็ถูกกล่าวขานและเกิดเสียงความเห็นตามมาอย่างท่วมท้นทันที พร้อมกับทำให้โลกทวิตเตอร์ มีการรีทวิตแฮชแท็ก #MILLILiveatCoachella #ข้าวเหนียวมะม่วง จนติดเทรนด์อย่างรวดเร็ว

หลังจบงานคอนเสิร์ต มิลลิ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพตัวเองกำลังกินข้าวเหนียวมะม่วง พร้อมข้อความให้คนเข้ามาโชว์ภาพข้าวเหนียวมะม่วงของตัวเอง โดยมิลลิโพสต์ข้อความประกอบภาพถือส้อมเตรียมจ้วงตักข้าวเหนียวมะม่วงว่า “Show me your mango sticky rice” ทำให้มีคนเข้ามาแสดงภาพข้าวเหนียวมะม่วงของตัวเองกันอย่างคึกคัก

การกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์กลางคอนเสิร์ต นอกจากเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ ยังขยายออกไปสู่โลกภายนอก ยอดสั่งซื้อข้าวเหนียวมะม่วงในวันนี้ เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสื่อไทยหลายสำนัก รายงานกระแสยอดขายข้าวเหนียวมะม่วงหลายแห่ง ขายดีชนิดที่ต้องปิดรับออเดอร์ผ่านแอปสั่งอาหารก็มี

การแสดงของมิลลิ ยังมีการกล่าวถึงสิ่งที่ถูกเรียกว่า “Soft Power” โดยตัวศิลปินที่ผลักดันตัวเองด้วยความสามารถและขับเคลื่อนด้วยความฝันและความมุ่งมั่น จนสร้างชื่อบนเวทีโลก อย่างที่บุคคลหลายวงการต่างๆ ออกมาพูดในลักษณะชื่นชมในตัวมิลลิ อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์พร้อมภาพที่ตัวเองกำลังชมถ่ายทอดการแสดงว่า

ตื่นเช้ามาดู MILLI ขึ้นเวที #coachella2022 ปี 1999 ผมอยู่ปี 2 การเงิน ธรรมศาสตร์ ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ UT Texas ได้ยินเรื่องคอนเสิร์ต Coachella เป็นครั้งแรกเพราะไล่ตามดู Rage against the machine วงโปรด (ที่จำได้ในหัวแต่ไม่เกี่ยวกัน คือ Coldplay เพิ่งปล่อยเพลง Yellow เป็นครั้งแรก มาเล่นที่ Austin, Texas ตั๋วเพียง 250 บาท!)

ตอนนั้นผมนั่งดูทีวีในดอร์มกับเพื่อนๆ หลากหลายเชื้อชาติ จำได้ว่าปีนั้น มี Beck, Roni Size, Moby, The Chemical Brothers และแน่นอน RATM ระดับโลก ต้อง Soft power ระดับโลกเท่านั้นที่จะขึ้นเวทีนี้ได้

22 ปีผ่านไป MILLI ศิลปินในดวงใจลูกสาวผม (6 ขวบ) ที่ช่วงนี้ร้อง The Weekend ทั้งวันนนน พิสูจน์ให้เราเห็นว่า Soft Power ไทยเป็นไปได้ นี่ขนาดเขาทำกันเองยังขนาดนี้ ถ้ารัฐบาลสนับสนุนจะขนาดไหน

ต้องให้เครดิต รุ่นที่เคยทำได้มาก่อน ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะ มีอย่างน้อยก็ T-Bone กับ Loso ที่เคยขึ้นเวทีระดับโลก

ก่อนอื่นเลย 1) ไม่มีเสรีภาพ ไม่มีความหลากหลาย ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่มี Soft Power

2) ต่อมาต้องสร้างรัฐสวัสดิการสนันสนุนศิลปิน ถ้าพูดให้เห็นภาพ เมือง Tennessee เป็นเมืองหลวงแห่งเพลงคันทรี่ได้ด้วยการมีบ้าน มีสวัสดิการสำหรับคนดนตรีคันทรี่ให้ไม่ต้องยอมแพ้ หรือต้องเลือกว่า จะเดินตามความฝัน โฟกัสกับการทำเพลงหรือต้องหาเลี้ยงครอบครัว ในขณะที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ นักดนตรีไม่ต้องพะวงทำให้ความคิดสร้างสรรค์เกิดได้เต็มที่

3) แล้วค่อยมาพูดเรื่อง การมีกระทรวงรับผิดชอบ งบเพิ่มขึ้นกี่เท่าๆ ภายในกี่ปี ลงทุนมีห้องถ่าย อุปกรณ์ระดับโลก เอา Big Data & AI มาคอยจับ ว่าคนฟังเลื่อนตรงช่วงไหน ถอยกลับมาฟังช่วงไหน เพื่อทำท่อนฮุกให้ติดหูคนในเพลงถัดไป

ดีใจกับ YUPP ด้วยครับ วันหลังต้องขอความรู้จากพวกคุณด้วยครับ เพื่อปูทางส่งโอกาสต่อให้คนรุ่นหลังต่อไป #MILLILiveatCoachella #Coachella #88risingCoachella #SoftPower

ในฝั่งคนบันเทิงและศิลปินเอง อ๋อม สกาวใจ พูนสวัสดิ์ นักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ถึงแร็พเปอร์สาวเช่นกัน โดยระบุว่า “เด็กคนนึง ทำตามฝัน โชว์พลังในตัวเอง ใช้ soft power ได้เกิน 100% ตบหน้าทุกหน่วยงานกลางเวทีโลก!!”

“เด็กคนเดียวกัน เคยโดนข้อหาหมิ่นเพราะวิจารณ์รัฐ!!! เด็กคนนี้ มีผลงานชัดเจนให้กับบ้านเมือง มากกว่า…หน่วยงานทุกหน่วยรวมกัน!!! เด็กคนนี้ ไม่ได้มีเงินเดือน ไม่มีรถประจำตำแหน่ง ไม่มีสวัสดิการต่างๆ จากภาษีด้วย…” พร้อมเขียนข้อความกำกับว่า “Milli หนูเก่งมากๆ นับถือหนูนะ #แต่รัฐบาลคือบูด”

หรือศิลปินรุ่นพี่อย่าง “สุกัญญา มิเกล” ออกมาโพสต์ถึงโชว์ของ สาวมิลลิ กับการกินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวที แต่พออ่านข้อความทั้งหมดแล้วกลับร้องอุ๊ย เสียงพี่หนุ่ม กรรชัย เลยทีเดียว

โดย “สุกัญญา มิเกล” โพสต์ข้อความว่า “ดีนะที่เป็นข้าวเหนียวมะม่วง ถ้าเป็น ซาหริ่มมมมม จะดิ้นจนถึงทุรนทุรายเลยทีเดียว ยินดีกับน้องมากมาย”

สิ่งที่ศิลปินดังยุค 90 กล่าวถึงนั้น ในท่ามกลางเสียงชื่นชมแร็ปเปอร์สาว ที่สามารถก้าวไปไกลถึงงานเพลงระดับโลกด้วยอายุไม่ถึง 20 ปี ก็ยังมีเสียงวิจารณ์จากฝั่งที่สนับสนุนรัฐบาล หรือคนไทยที่มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม ซึ่งบางส่วนอาจอยู่ในกลุ่มที่ ถูกจัดในกลุ่มเฉดการเมืองว่าเป็น “สลิ่ม” ซึ่งเป็นคำที่ก่อตัวขึ้นในห้วงความขัดแย้งทางการเมืองเรื่องสีเสื้อ ได้ออกมาพูดเชิงถากถางช่วงขึ้นเวที ตั้งแต่เนื้อเพลง จนถึงการกินข้าวเหนียวมะม่วงกลางคอนเสิร์ต

ทั้งนี้ มิลลิ หรือดนุภา ถือเป็นแร็ปเปอร์สาวอายุน้อยที่โด่งดังอย่างรวดเร็วจากความสามารถในการร้องเพลงแร็พ และยังเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่ออกมาคอลเอาต์ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนหนุ่มสาว ที่ออกมาเรียกร้องเปลี่ยนแปลงการเมืองและวิจารณ์รัฐบาลปัจจุบันที่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเรื่องการรับมือโรคระบาด โควิด-19 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 มิลลิ ได้รับหมายเรียกจาก สน.นางเลิ้ง จากกรณีที่ อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หรือ คตส. ในฐานะทนายความของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร คสช. แจ้งความในข้อกล่าวหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 เพราะวิจารณ์การบริหารจัดการโควิดที่ล้มเหลว จนในที่สุด คดีจบที่ ตำรวจได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 2,000 บาท ผู้กล่าวหาแจ้งว่าไม่ติดใจเอาความ คดีอาญาเป็นอันเลิกกัน