องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่ภาพถ่ายทางดาวเทียมที่แสดงให้เห็นว่า ทางการพม่าได้มีการรณรงค์อย่างเป็นระบบในการเผาทำลายหมู่บ้านของชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่

ภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งองค์การนิรโทษกรรมสากลนำมาเผยแพร่ ถูกระบุว่าเป็นหลักฐานที่ชัดเจนซึ่งแสดงให้เห็นว่ากองกำลังทหารพม่าพยายามที่จะผลักดันชาวโรฮีนจาออกไปจากประเทศ โดยภาพถ่ายดาวเทียมดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นบนข้อมูลจากระบบติดตามไฟไหม้ ทั้งภาพจากดาวเทียม ภาพถ่าย วิดีโอ และการสัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งทั้งหมดล้วนแสดงให้เห็นว่ามีการเผาทำลายอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายที่หมู่บ้านชาวโรฮีนจาตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุด้วยว่า หลักฐานที่พบเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากองกำลังฝ่ายความมั่นคงของพม่าได้จุดไฟเผาหมู่บ้านในรัฐยะไข่เพื่อผลักดันชาวโรฮีนจาออกจากพม่า และชัดเจนว่านี่คือความพยายามที่จะกวาดล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งนี้การกระทำของทหารพม่าที่เข้าล้อมหมู่บ้าน ไล่ยิงผู้คนขณะที่พวกเขาหลบหนีออกมาจากบ้านที่ไหม้ไฟ ถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

ทั้งนี้กองทัพและรัฐบาลทหารพม่าปฎิเสธว่าไม่ได้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือพยายามขับไล่ชาวโรฮีนจาออกนอกประเทศตามที่ถูกกล่าวหา แต่กำลังต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายที่ก่อเหตุวุ่นวายในประเทศพม่า

ล่าสุดนับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีชาวโรฮีนจาอพยพออกจากพม่าไปยังบังกลาเทศแล้ว 389,000 คน ขณะที่รัฐบาลพม่าระบุว่า ปัจจุบันหมู่บ้านชาวโรฮีนจาราว 30% กลายเป็นหมู่บ้านร้าง

ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้มีการยุติการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮีนจาในพม่า พร้อมกับเน้นย้ำถึงความสำคัญที่ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องออกมาแสดงท่าทีต่อกรณีดังกล่าวด้วย