“ประยุทธ์” ปัด ไม่ยุ่งเกี่ยวปม ผอ.ช่อง 5 พ้นตำแหน่ง ยันเป็นเรื่องภายในกองทัพบก

“ประยุทธ์” ปัดไม่เกี่ยวปมปลด “ผอ.ททบ.5” บอกนายกฯไม่ใช่ ผบ.ทบ.ไม่ยุ่ง ชี้เป็นเรื่องของบอร์ด เตือนสื่อเสนอข่าวอย่าร่วมขัดแย้งกระทบไทย เมินคะแนนนิยม ‘พิธา’ แซงหน้า ไม่บั่นทอนการทำงาน ปัดส่งคนเจรจา ทักษิณ

วันที่ 29 มี.ค. 2565 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานบอร์ด สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 หรือ ททบ.5 มีคำสั่งให้ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 พ้นจากหน้าที่ สืบเนื่องจากข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน ว่า จริงๆ แล้วตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว เพราะตนไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งตนไม่ได้พูดถึงเฉพาะช่อง 5 ทุกช่องนั่นแหละ เวลาออกข่าวพวกนี้ถ้าวิเคราะห์มากเกินไปบางทีทำให้เกิดปัญหาในภาพรวมของประเทศ หากเสนอตามนั้นก็ปกติไป เพราะจริงๆ แล้วเราอยู่คนละภูมิภาค แต่ข้อสำคัญเราอยู่ในองค์กรไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ กลุ่มนั้นกลุ่มนี้เราก็เป็นสมาชิกเขาหมดใช่หรือไม่ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังก็แล้วกัน ทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบกับประเทศเรา นะจ๊ะ เห็นใจหน่อย

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรี ได้แสดงความไม่สบายใจไปยังผู้บังคับบัญชา ททบ.5 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่า “ไม่ ผมไม่ได้พูดอะไร” เขาคงเป็นเรื่องการตรวจสอบคัดกรองกันเอง เพราะเขามีกรรมการอยู่แล้ว ตนไม่ไปยุ่งหรอก เมื่อถามว่า มีข่าวออกมาแบบนั้น นายกฯตอบว่า ก็ข่าวไง และตนก็พูดอยู่นี้ว่าไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ก็แค่นั้นแหละ เป็นเรื่องภายในของเขา

อย่าลืมว่าตนไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกจะไปสั่งเขาได้อย่างไร เป็นเรื่องกรรมการของเขาที่จะพิจารณากันเอง รัฐบาลมีนโยบายเพียงแต่ว่าอย่าไปร่วมขัดแย้งกับเขาเข้าใจหรือไม่ เสนอข่าวด้วยข้อเท็จจริงได้ไหม บางทีบางเรื่องไม่เหมาะสมที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรกันมากมายนักหรอก ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเรา นะจ๊ะ

เมินคะแนนนิยมตก ปัดส่งคนดีลทักษิณ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ซึ่งทุกคนก็เครียดกันหมด เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมือง หลายเรื่องประเดประดังเข้ามา ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เรื่องสงคราม รวมทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ได้หารือกันทั้งในรอบและนอกรอบ ซึ่งทุกคนรับปากว่าจะทำให้ดีที่สุด ในนามของรัฐบาลจะร่วมมือกันทำงาน

นายกฯ กล่าวว่า นายกฯติดตามสถานการณ์ทุกเรื่องอย่างใกล้ชิด เรื่องใดเป็นเรื่องความเดือดร้อนหรือเรื่องความขัดแย้ง ต้องประเมินและเตรียมแผนงานไว้ล่วงหน้า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความพร้อมของคนไทยที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหา

ขออย่าขัดแย้งกัน ความคิดไม่ตรงกันได้ แต่เราจะหาวิธีการปฏิบัติอย่างไรที่มันทำได้ดีที่สุด ต้องหันหน้ามาพูดกันและหาทางออกที่ดีที่สุด ด้วยเหตุผลหรือหลักการที่เข้าใจตรงกัน ถ้าต่างคนต่างพูดแล้วถือเป็นอารมณ์ ทั้งหมดก็ไม่มีทางสำเร็จ ในทุกเรื่อง กลับไปย้อนดู ทุกอย่างที่พูดกันมา เราทำมาหรือเปล่า รัฐบาลทำไปแล้วหรือยัง ไม่มีอะไรสำเร็จ 100% ผมพูดได้เพราะผมอยู่มาหลายปีแล้ว แต่ผมก็เปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมทำ รัฐบาลนี้ทำมาแล้วหลายปี เท่าที่ผมอยู่ ผมก็ทำไปเยอะพอสมควร หลายเรื่องที่เอามาพูดกันตอนนี้ ผมก็ทำไปแล้ว ขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วยแล้วกัน” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับโพลของนิด้า ที่คะแนนนิยมของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แซงหน้านายกฯ และจะต้องปรับการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่รู้จะตอบอะไร เพราะเรื่องโพล ก็เป็นเรื่องของโพลไป

เมื่อถามว่านายกฯสงสัยหรือไม่ว่า ทำงานหนักขนาดนี้แล้ว ทำไมผลโพลยังออกมาตรงข้าม บั่นทอนจิตใจและการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อะไร ผลออกมาเหมือนไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นหรือ ยืนยันว่าไม่บั่นทอนการทำงานของนายกฯเพราะนิสัยของผมไม่เคยหลบหนีปัญหาอยู่แล้ว”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวส่งคนไปเจรจากับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบและศึกซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “คุยกับใคร คุยได้เหรอ คุยได้หรือเปล่า” ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที