เปิดตัว ‘อุ๊งอิ๊ง’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตั้งเป้ารัฐบาลแลนด์สไลด์ เผด็จการต้องหมดไป

เปิดตัว ‘อุ๊งอิ๊ง’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตั้งเป้ารัฐบาลแลนด์สไลด์ ไล่เผด็จการต้องหมดไป ประกาศดึง 14 ล้านเสียงยุคทรท.กลับมา

 

วันที่ 20 มี.ค.65 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติมลฑาทิพย์ ฮอลล์ จ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” มีแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท. นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคพท. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพท. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานโซน 2 กทม. นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคพท. พร้อมเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรรมเพื่อไทย เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

นายสุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย เรามีนโยบายต่างๆ จนชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.248 ที่นั่ง ได้ตั้งรัฐบาลโดยมีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ จนเกิดวลีประชาธิปไตยกินได้ เพราะทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ เป็นรัฐบาลที่อยู่ครบ 4 ปีในประวัติศาสตร์ไทย จากนั้นเมื่อเลือกตั้งอีกครั้งใน 4 ปีให้หลัง เรายังได้ส.ส. 377 ที่นั่ง ตั้งพรรคการเมืองพรรคเดียว ซึ่งถือว่านายทักษิณเป็นผู้นำที่สง่างามในเวที ได้รับการยอมรับทั้งเอเชียและเวทีนานาชาติ ทำให้ประเทศไทยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย และวันนี้ประเทศกลับเป็นหมาตัวที่ 1 ของเอเชีย ต่อมานายทักษิณต้องถูกรัฐประหาร และยุบพรรคไทยรักไทยในเวลาต่อมา

ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า การรัฐประหารปี 2549 ทำให้พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ถือว่าบ้านแตก แต่เมื่อมีรัฐธรรมนูญ 2550 เราก็เดินหน้าตั้งพรรคการเมืองใหม่ บ้านหลังนี้คือพรรคพลังประชาชน มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค เลือกตั้งมาได้ ส.ส. 233 คน เราเป็นพรรคการเมืองได้ไม่นาน พรรคก็ถูกยุบอีกครั้ง มีการแตกพรรคครั้งใหญ่ ส่วนหนึ่งไปตั้งพรรคใหม่ อีกส่วนหนึ่งต่อสู่ในบ้านหลังใหม่ แต่ดีเอ็นเอเดิม คือพรรคเพื่อไทย การที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบทำให้เกิดพี่น้องเสื้อแดงที่ออกมาต่อสู่เรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่มีการสังหารพี่น้องเสื้อแดงอย่างอำมหิตใจกลางเมือง

ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 265 ที่นั่งภายใต้การนำโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นนายกฯ หญิงคนแรกของไทย ขณะนั้นประชาชนเหมือนได้รับแสงสว่าง ผ่านนโยบายจบปริญญาตรี ได้เงินเดือน 15,000 บาท กองทุนหมู่บ้าน กองทุนบทบาทสตรี นโยบายจำนำข้าว พักหนี้เกษตรกร แผนการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ สร้างอนาคตไทย 2020 และวันนี้ 23 ปี ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย แม้จะมีความพยายามรื้อถอนบ้านเรากี่ครั้ง เราจะจับมือกันไว้ เพราะเรามีภารกิจนำพาความหวังกลับสู่มือประชาชนอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาเหมาะสมครอบครัวเพื่อไทยจะต่อสู้กับโจรในเครื่องแบบ และสร้างบ้านหลังใหญ่พรรคเพื่อไทย

จากนั้น นพ.ชลน่าน ขึ้นกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง 237 เสียง แต่ถูกทำลายด้วยรัฐธรรมนูญ ที่เขียนเอาเปรียบ กำจัดเพื่อไทยโดยเฉพาะ ปล้นอำนาจเราไป พรรคเพื่อไทยสืบสายเลือดจากไทยรักไทย พลังประชาชน โดยครอบครัวเพื่อไทย จะเป็นนวัตกรรมใหม่ของภาคประชาชน เราจะใช้นวัตกรรมมาสร้างการเมืองภาคพลเมือง ที่จะกลับมาสนับสนุนให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายหรือแลนด์สไลด์ เราต้องร่วมสร้างพลังครอบครัวเพื่อไทย สร้างโอกาสให้ครอบครัวเพื่อไทย ที่จะไปสร้างอนาคตให้ประเทศชาติ การจะสร้างพลัง สร้างความรัก เพื่อแสวงหาโอกาส สำคัญที่สุดคือ ผู้นำ โดยผู้นำต้องสามารถหลอมรวมใจเดิมๆ ของเพื่อไทยให้กลับมาเป็นหนึ่ง สืบเจตนารมณ์ สายเลือดพันธุกรรม ผู้นำของเราต้องหลอมรวมพวกเราเป็นหนึ่งได้ ในครอบครัวเพื่อไทย ไม่ใช่ผู้นำที่มีความเกรี้ยวกราด ไม่เอื้ออาทรต่อใคร แต่เราต้องมีผู้นำที่เข้มแข็ง มีจิตใจเอื้ออาทร ต่อญาติมิตร ด้วยข้อจำกัดกฎหมาย ที่มีเจตนาปิดกั้นความเป็นสมาชิก แต่เราไม่สนใจ เราจะมาสร้างครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม การเมืองภาคประชาชนจะไม่เดินอย่างโดดเดี่ยว เพราะพรรคเพื่อไทย จะสรรค์สร้างสิ่งที่ดีให้ประเทศชาติบ้านเมือง ขอเพียงได้รับการสนับสนุน เรายินดีจะทำให้กับครอบครัวเพื่อไทยและบ้านนี้เมืองนี้อย่างเต็มที่

น.พ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า มั่นใจว่าด้วยนวัตกรรมการเมืองภาคพลเมือง จากร้อยเป็นพันหมื่นแสน จาก 400 เขตในสองเดือนนี้ มั่นใจจะได้ 8 ล้านสมาชิก และจะเติบโตเป็นบ้านหลังใหญ่ไปเป็น 10 ล้าน 12 ล้าน 15 ล้าน ถ้าเราช่วยกัน ไปหาญาติมิตร ไปหาพี่น้อง ไปเข้าถึงพวกเราที่มีหัวใจเดียวกัน เพื่อไทยหัวใจเดิมที่เป็นครอบครัวเพื่อไทย ถ้าเราได้โอกาสจากครอบครัวเพื่อไทย มั่นใจ เป้าหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้งแผ่นดินจะเป็นของพวกเรา แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น หากขาดผู้นำที่เราหวังเอาไว้ เราโชคดีได้สายเลือดพันธุกรรม ผู้ที่มีความปรารถดีต่อประเทศชาติ ที่ต้องการแก้ปัญหาให้พี่น้อง ต้องการสร้างโอกาสให้ลูกหลาน นำพาประเทศให้มีที่ยืนในอารยะประเทศให้เป็นที่ยอมรับ แต่ก็ถูกกลั่นแกล้ง ทำลาย แม้แผ่นดินแม่ ก็ไม่ได้อยู่ แต่เราก็มีความภาคภูมิใจขอประกาศว่า ผู้นำครอบครัวเพื่อไทย เป็นสายเลือด เป็นดีเอ็นเอ ของคนที่มีเจตนาที่จะสร้างบ้าน สร้างเมืองนี้ในนามของพรรคไทยรักไทย เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรรมเพื่อไทย ภูมิใจที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คือคุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร

จากนั้นเวลา 11.10 น. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รู้สึกน้ำตาจะไหลเพราะตนจำได้หลายเหตุการณ์ แต่ตอนนั้นตนเป็นเพียงผู้เฝ้ามอง ยังไม่ได้มีส่วนร่วมตอนที่พรรคไทยรักไทยก่อตั้งขึ้น ตนเพิ่งอายุ 12 ขวบตอนที่คุณพ่อก่อตั้งพรรคไทยรักไทย พอมาถึงรัฐบาลของคุณอายิ่งลักษณ์ ตนอยู่ในช่วงวัยทำงานแล้วอายุประมาณ 28 ปี พูดเลยว่าขนาดที่ยังไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับพรรคการเมือง ก็สามารถสัมผัสได้อย่างเดียวว่าเส้นทางการเมืองไม่ง่ายเลย อุปสรรคมากมายเต็มไปหมด ไม่ได้เข้าการเมืองมาก็ได้รับผลกระทบเยอะเช่นเดียวกัน ระหว่างที่เติบโตจนมาถึงวันที่เป็นผู้ใหญ่วันที่เป็นคุณแม่แล้ว บ้านพรรคเพื่อไทยหลังนี้ก็ได้เติบโตและเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย ระหว่างทางมีคนตกหล่นหายไปบ้างไป อยู่ในบ้านที่เขารู้สึกปลอดภัยกว่าบ้าง บางคนทนบาดแผลความเจ็บปวดไม่ไหวก็หายไป แต่ยังมีอีกหลายคนมากๆ ที่ยังอยู่รวมกันตอนนี้ ยังรอที่จะต่อสู้ไปด้วยกันกับเรา ต้องขอขอบคุณทุกคน ขอบคุณประชาชนที่ยังอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขเป็นครอบครัวเดียวกันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ และการสนับสนุนของทุกท่านทำให้พรรคเพื่อไทยมีวันนี้

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตลอด 23 ปีบนเส้นทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ประสบการณ์ถือเป็นต้นทุนสำคัญที่สุดที่เรามี ตนพูดด้วยความภาคภูมิใจว่าเราเป็นรัฐบาลที่คิดนโยบายและทำให้ประสบความสำเร็จได้ เราเป็นรัฐบาลแรกที่จัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคการเมืองเดียวและอยู่จนจบวาระมาก หลังจากที่จบเทอมที่สอง เราได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งจนเป็นประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย ไม่ว่าเราจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่เราก็มีข้อผิดพลาดถือเป็นประสบการณ์ให้พรรคของเราได้เรียนรู้ปรับปรุง เพื่อที่จะทำให้ปัจจุบันและอนาคตดีกว่า จากประสบการณ์การเป็นรัฐบาลของไทยรักไทยจนพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการของพี่น้องประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปเหมือนที่แต่ละรัฐบาลในอดีตต้องปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เราต้องทำให้พรรคเพื่อไทยปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สำคัญเราจะไม่มีวันลืมประชาชนรากหญ้าของเรา ที่สนับสนุนเรามาตั้งแต่วันแรก

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ต้นไม่ใหญ่ต้นนี้เราต้องอยู่ให้แข็งแรง และรอดพ้นเป็นความหวังของประชาชน เป้าหมายแรกคือการสร้างการมีส่วนร่วมของคนแต่ละยุคเจเนอเรชั่น เพราะการทำงานมีความยาก การหาจุดตรงกลางเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ให้ทุกคนที่มีความคิดต่างกัน ทำงานร่วมกันได้จนนำไปสู่การตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน เช่น นโยบายผ้าอนามัยฟรี เป็นการใช้จุดแข็งของเราและพัฒนาจุดอ่อนของเราไปพร้อมพร้อมกันภายใต้นโยบายเดียวกัน เราสามารถคิดนโยบายที่จะทำได้จริงตามที่เราศึกษา เป็นการเพิ่มมิติใหม่ เน้นแก้ไขปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เพิ่มมิติใหม่คือการรักษาความเสมอภาคทางเพศและการลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เรายังมีนโยบายใหม่ใหม่ที่น่าสนใจอีกมากมาย รอเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเราจะเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ

“ส่วนเป้าหมายที่สองถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เราจะต้องเป็นรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป อาจเป็นเรื่องไกลตัว แต่ไม่ไกลเกินไป เราต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้ เมื่อถึงเวลาของเรา เราจะต้องพร้อม พรรคเพื่อไทยจะต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้และเป็นแกนนำ เพื่อให้เราสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ ให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นโยบายดีแค่ไหนก็ตามก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย นโยบายของเราจะเป็นการเติมเงินให้พี่น้องชาวไทยอย่างภาคภูมิใจ ให้พี่น้องรู้สึกว่าการเกิดเป็นคนไทยเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจมากที่สุด ดังนั้นเราต้องร่วมมือกัน การจะบรรลุเป้าหมายได้ เราต้องอาศัยการสนับสนุนทุกอย่างจากพี่น้องประชาชน ทั้งการสนับสนุนความคิดเห็น การพัฒนาต่างๆ จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยอยากให้พี่น้องทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น จึงเป็นที่มาของโปรเจ็กต์ครอบครัวเพื่อไทยในวันนี้” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า พรรคไทยรักไทยเราเคยมีสมาชิกถึง 14 ล้านคน ซึ่งยังไม่มีใครทำลายสถิตินั้นได้ เมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบ และมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนและพรรคห่างกันไปอีก ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงสร้างกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิมขึ้นมา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้กับประชาชนโดยไม่มีการผูกมัดใดๆ ไม่มีเงื่อนไขทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง การสมัครเป็นครอบครัวเพื่อไทยสมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เราอยากให้ทุกคนมาสมัครเยอะๆ เพื่อให้เราบรรลุแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาล เพื่อขจัดความสิ้นหวัง เรามาร่วมเป็นครอบครัวเพื่อถไทยด้วยกัน เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามาก เมื่อการเลือกตั้งมาถึงอีกครั้ง เมื่อถึงเวลา 14 ล้านเสียงของไทยรักไทยสมัยก่อน จะเกิดขึ้นอีกครั้งกับเพื่อไทยในวันนี้ บ้านหลังใหญ่ขอต้อนรับทุกท่านด้วยหัวใจดวงเดิม ไม่ว่าท่านจะอยู่กับเรามานานแล้ว หรือเพิ่งเข้ามาอยู่ก็ตาม เราจะอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว จะสู้ต่อไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง เราจะไม่ทิ้งกัน

ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีประชาชนในพื้นที่ จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ห้องใหญ่ ห้องละ 500 คนให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดของศบค. โดยมีการจัดถ่ายภาพไปยังทั้ง 3 ห้อง แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้ามาร่วมในห้องจัดงานได้ รวมถึงยังมีการถ่ายทอดสดไปยังเพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทยด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาชนที่มาร่วมงานลงทะเบียนเป็นครอบครัวเพื่อไทยแล้วก็ได้รับเสื้อยืดสีแดงสกรีนข้อความ “ครอบครัว เพื่อไทย”