วันที่ 11 มีนาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานความเห็นของเจ้าพ่อแห่งวงการเหล็กกล้าของรัสเซีย ที่ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อความพยายามของรัฐบาลรัสเซียที่ออกกฎหมายเข้ายึดสินทรัพย์ของบริษัทต่างชาติที่ยุติให้บริการในรัสเซียอันเป็นส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรสามัคคีเพื่อประณามการรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซีย และทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีมาหลายทศวรรษ และจะพารัสเซียกลับไปสู่ยุคอันวุ่นวายในช่วงการปฏิวัติบอลเชวิค 1917

วลาดิเมียร์ โปตานิน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทนอริลน์ส นิคเคิล ยักษ์ใหญ่เหมืองแร่และถลุงแร่นิกเกิลและผู้ผลิตพาลาเดียมของรัสเซีย แนะรัสเซียควรรับมือการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจชุดใหม่จากทั่วโลกด้วยวิธีแบบปฏิบัตินิยม ไม่ใช่ควรพยายามปิดประตู แต่พยายามรักษาตำแหน่งทางเศรษฐกิจของรัสเซียในตลาดเหล่านั้นซึ่งเราใช้เวลาฝึกฝนมายาวนาน

“การเข้ายึดสินทรัพย์กิจการต่างชาติที่ยุติลงในรัสเซียเพื่อคว่ำบาตรจากการรุกรานยูเครน จะสร้างภาวะไม่มั่นคงให้กับนักลงทุนนานเป็นทศวรรษ บางทีอาจพารัสเซียถอยหลังลงคลองเป็น 100 ปี กลับสู่ยุคปี 1917 (การปฏิวัติบอลเชวิคที่พาราชวงศ์โรมานอฟและจักรวรรดิรัสเซียล่มสลาย) เราจะสูญเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลก” โปตานิน กล่าว

ทั้งนี้ รัสเซียเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากการถูกคว่ำบาตรสามัคคีโดยประชาคมโลกและภาคเอกชนหลายวงการเพื่อประณามการรุกรานยูเครนที่วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ย้ำว่าเป็นปฏิบัติพิเศษทางทหารเพื่อสกัดกั้นการขยายตัวขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ ไม่ให้ประชิดพรมแดนรัสเซีย ขณะที่หลายชาติพากันคว่ำบาตรตั้งแต่การค้า การนำเข้า-ส่งออกโดยเฉพาะพลังงาน ไปจนถึงการตัดจากระบบโทรคมนาคมทางการเงินหรือ SWIFT รัสเซียเตรียมตอบโต้ธุรกิจต่างชาติโดยเฉพาะชาติที่รัสเซียขึ้นรายชื่อว่าไม่เป็นมิตรเพราะจุดยืนประณามการทำสงคราม ด้วยการเตรียมออกกฎหมายึดสินทรัพย์ของธุรกิจต่างชาติที่อยู่ในรัสเซีย โดยจะเปิดทางให้จัดหาผู้บริหารภายนอกมาเดินกิจการให้เจ้าของเดิมไม่กลับมาดำเนินธุรกิจภายในเวลากำหนด