‘พลังงาน’ ชง ครม. ลดค่าไฟ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน จากราคาน้ำมัน

‘พลังงาน’ ชง ครม. ลดค่าไฟ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูง หวัง เม.ย.นี้ พ้นฤดูหนาวยุโรป ทำราคาพลังงานปรับลดลงมา ราคา น้ำมันเบรนต์พุ่งทะลุ 139 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 14 ปี

 

ปัญหาความขัดแย้งในยูเครนส่งผลให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ มีรายงานว่าราคาน้ำมันเบรนต์ทะเลเหนือได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 139.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 14 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะปรับลดลงมาปิดที่ 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่สหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณว่าจะยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และจะแสวงหาทางเลือกในด้านพลังงานจากประเทศอื่นแทน ขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกออกมาปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวในทันที

นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า ยุโรปจงใจที่จะงดเว้นการคว่ำบาตรการซื้อพลังงานจากรัสเซีย เนื่องจากไม่สามารถหาทางทดแทนอุปทานของสหภาพยุโรปด้วยวิธีอื่นได้ในขณะนี้ และมันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการให้บริการสาธารณะรวมถึงต่อชีวิตของพลเมืองในเยอรมัน

เช่นเดียวกับ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่สนับสนุนจุดยืนของผู้นำเยอรมนี โดยระบุว่า มันมีการพึ่งพาอาศัยกันในประเทศต่างๆ และเราจำเป็นต้องคำนึงถึงประเด็นนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่งที่เราต้องลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย แต่เราต้องทำมันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

ขณะที่ นายมาร์ก รึตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า ความจริงที่น่าเจ็บปวดคือเรายังคงต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากรัสเซียเป็นอย่างมาก หากจะบังคับให้บริษัทในยุโรปเลิกทำธุรกิจกับรัสเซียในขณะนี้จะต้องเกิดผลกระทบตามมาอย่างมากทั่วยุโรปรวมถึงยูเครนและทั่วโลกด้วย ถึงแม้ว่าเราจะต้องลดการพึ่งพาดังกล่าว แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา

ความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าราคาสินค้าในชีวิตประจำวันจำนวนมากตั้งแต่อาหาร น้ำมัน ไปจนถึงพลังงานที่ใช้สำหรับเครื่องทำความร้อนที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 30 ปี อาจถูกผลักดันให้ยิ่งปรับตัวสูงขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากซาอุดีอาระเบีย และเป็นผู้ส่งมอบน้ำมันให้กับยุโรปประมาณ 1 ใน 3 ของการใช้งานในปัจจุบัน และยุโรปยังต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ 40% จากรัสเซียอีกด้วย

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ใน 5 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าอุปทานการจัดส่งน้ำมันของรัสเซียจะลดลง

นักวิเคราะห์จากแบงค์ออฟอเมริกากล่าวว่า การระงับการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ล่าสุด ราคาน้ำมันเบรนต์ทะเลเหนือซื้อขายกันอยู่ที่ 123.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 4.32% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ซื้อขายที่ 120.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 1%

มาที่ฝั่งประเทศไทยที่ได้รับผลพวงจากวิกฤตพลังงานนั้น โดย แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะพิจารณาข้อเสนอของกระทรวงพลังงานในเรื่อง การลดภาระค่ากระแสไฟฟ้า ให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในเวลานี้

“การแก้ไขปัญหาวิกฤตราคาพลังงานในขณะนี้ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง ตามความจำเป็นในแต่ละช่วง เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยหวังว่าหลังจากพ้นฤดูหนาวในทวีปยุโรปในช่วงเดือนเมษายนนี้ และเริ่มเข้าฤดูร้อนในเดือนพฤษภาคม ปริมาณการใช้พลังงานเพื่อทำความอบอุ่นในทวีปยุโรปจะเริ่มลดลง

ทำให้ความต้องการของพลังงานในยุโรปลดลง ซึ่งน่าจะช่วยลดแรงกดดันในเรื่องราคาพลังงานได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าขณะนี้สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่จบก็ตาม” แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลกล่าว