ใกล้สู่สงคราม? ‘ปูติน’ สั่งเคลื่อนกำลังพลเข้า 2 แคว้นหนุนรัสเซียในยูเครน หลังรับรองเอกราชทันที

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 รอยเตอร์สรายงานความคืบหน้าสถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนที่เพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น เมื่อประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน สั่งเคลื่อนกำลังพลเข้าไปประจำแคว้นโดเนสกค์และลูฮันสค์ ที่ปูตินเพิ่งเซ็นอนุมัติรับรองให้ 2 แคว้นที่อยู่กับยูเครนแต่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียตั้งหมั่นอยู่เป็นรัฐเอกราช และคาดว่าในไม่ช้าจะผนวกเข้าร่วมกับรัสเซีย สร้างความกังวลกับชาติตะวันตกที่อาจหมายถึงสงครามใหญ่ที่กำลังใกล้มามาถึง

โดยรอยเตอร์สรายงานพยานเหตุการณ์เห็นกลุ่มรถถังและยานยนต์ทหารเคลื่อนเข้ามายังเมืองโดเนสกค์ ซึ่งปูตินสั่งให้กระทรวงกลาโหมรัสเซียส่งกำลังพลเข้าไปยัง 2 แคว้นดังกล่าวในนามการรักษาสันติภาพแบบฝ่ายเดียว

การเซ็นรับรองเอกราชและการส่งกำลังเข้าไปในยูเครน ได้ทำให้สหรัฐฯและชาติยุโรปออกมาประณามและประกาศมาตรการลงโทษครั้งใหม่ แม้ยังไม่ชัดเจนว่าความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซียจะเป็นจุดเริ่มต้นของการรุกรานยึดยูเครนเต็มรูปแบบหรือไม่

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลของจำนวนกำลังรบที่ปูตินสั่งเข้าพื้นที่ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แต่คำประกาศรับรองเอกราชดังกล่าว ทำให้รัสเซียอ้างสิทธิในการตั้งฐานทัพใน 2 แคว้นดังกล่าวและกำลังรบที่ถูกส่งเข้าไปคือปฏิบัติการรักษาสันติภาพ

ก่อนหน้านี้ ปูตินได้ปราศรัยผ่านโทรทัศน์ ร่ายยาวอย่างอัดแน่นด้วยความคับข้องใจต่อชาติตะวันตก ปูตินดูโกรธอย่างเห็นได้ชัด อธิบายว่ายูเครนเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์รัสเซีย และกล่าวว่ายูเครนตะวันออกเป็นดินแดนรัสเซียโบราณ และเขามั่นใจว่าชาวรัสเซียจะสนับสนุนการตัดสินใจของเขา

ปูตินยังกล่าวปราศรัยอีก โดยได้เจาะลึกประวัติศาสตร์ไปไกลถึงจักรวรรดิออตโตมัน และล่าสุดคือความตึงเครียดเกี่ยวกับการขยายตัวทางทิศตะวันออกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ ข้อเรียกร้องของเขาที่ขอให้ยูเครนยกเลิกเป้าหมายระยะยาวในการเข้าร่วมพันธมิตรทางทหารในมหาสมุทรแอตแลนติก

“ผมคิดว่าจำเป็นต้องตัดสินใจซึ่งควรจะทำมานานแล้ว – เพื่อให้ตระหนักถึงความเป็นอิสระและอำนาจอธิปไตยของสาธารณรัฐโดเนตสค์และสาธารณรัฐประชาชนลูกันสค์โดยทันที หากยูเครนเข้าร่วมนาโต้ มันจะเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของรัสเซีย” ปูติน กล่าวในคำปราศรัย

ด้านสื่อของรัฐบาลรัสเซียรายงานข่าวการลงนามรับรองเอกราชนั้น ปรากฎภาพของปูติน และยังมีผู้นำแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย มาร่วมพิธีลงนามรับรองความเป็นรัฐเอกราชให้ 2 แคว้นที่แตกแยกในยูเครน ได้แก่ สาธารณรัฐโดเนตสค์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ พร้อมข้อตกลงด้านความร่วมมือและมิตรภาพ

ส่วนรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า ปูตินได้แจ้งการตัดสินใจผ่านทางโทรศัพท์ไปยังผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสก่อนการลงนามแล้ว ซึ่งทั้ง 2 ประเทศส่งเสียงผิดหวังกับการตัดสินใจ

ปฏิกิริยาตอบโต้จากตะวันตก

อย่างไรก็ตาม ต่อมาโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ได้ตอบโต้การกระทำรัสเซียด้วยการลงนามคำสั่งผู้บริหารให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดของสหรัฐฯตัดขาดจาก 2 แคว้นของรัสเซีย รวมถึงสั่งปิดกั้นการนำเข้าสินค้ารวมถึงการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว

ต่อมาเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า มาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อตอบโต้ต่อคำสั่งของปูตินนั้น ซึ่งแยกออกจากการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ และพันธมิตรพร้อมแล้ว หากรัสเซียบุกยูเครน

เช่นเดียวกับ แอนโทนี บลิงเค้น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวว่า คำสั่งผู้บริหารดังกล่าวออกมาเพื่อยับยั้งรัสเซียไม่ให้ได้ประโยชน์จากการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้งนี้

ขณะที่ มาร์ค รูธท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปได้ตกลงประกาศมาตรการแซงก์ซั่นแบบจำกัด โดยพุ่งเป้าไปยังผู้มีส่วนต้องรับผิดชอบที่ทำให้รัสเซียออกมารับรองรัฐเอกราชที่มีกลุ่มกบฎนิยมรัสเซียอยู่ เช่นเดียวกัน ลิซ ทรูซ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษกล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจะประกาศแซงก์ซั่นด้วยในวันนี้