ทำความรู้จัก ‘นิต้า มานิตา’ ครูอาสาบ้านไร่ ผู้คว้ามงนางสาวไทยคนที่ 53

จบไปแล้วสำหรับการประกวด ‘นางสาวไทย’ ประจำปี 2565 ซึ่งสาวงามที่สามารถคว้ามงกุฎนางสาวไทย คนที่ 53 ของไปได้นั้นก็คือ ‘นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์’ บอกเลยว่าสวยครบสมมงแบบไม่พลิกโผเลยก็ว่าได้ วันนี้ ทีมข่าวสด ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักเธอคนนี้ให้มากขึ้น

อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน, ผู้คนกำลังนั่ง และ ผู้คนกำลังยืน

นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ นั้นสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เกิดและโตที่จังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันอายุ 25 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะคอมมูนิเคชัน อาร์ต เกียรนิยมอันดับ 1 มีความสามารถทางด้านภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี

ปัจจุบันเป็นเซลล์เมเนเจอร์ และเป็นครูอาสา ในตำแหน่งวิทยากรพิเศษส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ณ โรงเรียนวัดบางไผ่นารถ อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ขาดแคลน

นิต้า มานิตา นางสาวไทย 2565

บอกเลยว่าสาวนิต้านั้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งสาวสวยมากความสามารถ ที่ผ่านมานั้นเธอก็เคยเข้าประกวดบนเวทีนางงามมาแล้วหลายครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 มานิตาเคยเข้าร่วมการประกวดมิสเวิลด์ไทยแลนด์ เธอต้องฟิตหุ่นและลดน้ำหนักไปถึง 40 กิโลกรัม เพื่อเข้าร่วมการประกวด แต่แม้ว่าในครั้งนั้นเธอจะไม่ได้ครองมงกุฎ แต่นิต้าก็ยังมุ่งมั่นออกกำลังกายและดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง

จนทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดตัวเต็งบนเวทีสาวไทยในปีนี้ เพราะเธอนั้นมีดีกรี รองอันดับ 1 มิสแกรนด์ภูเก็ต 2017 และ ท็อป 12 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ซึ่งในการกลับเข้ามาประกวดเอีกครั้งในปีนี้ เธอได้ทีมพี่เลี้ยงสุดแกร่งอย่างทีมภูเก็ตคอยซัพพอร์ต ประกอบกับการที่เธอมีประสบการณ์เป็นครูอาสานั้นทำให้เธอมีแพสชั่นตรงกับบริบทของเวที

เพราะหลังจากนี้นางสาวไทยคนที่ 53 ประจำปี 2565 จะร่วมปฏิบัติภารกิจสาธารณกุศลมากมาย เพื่อเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้สังคม ส่งเสริมและยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา และเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามแม้ในอนาคตอาจมีคนวิจารณ์ว่าเป็นนางสาวไทยแต่หน้าลูกครึ่ง เจ้าตัวเองก็อยากชี้แจงว่าตั้งแต่วันแรกที่มาสมัครก็มีคำพูดแบบนี้แล้ว เรามาเป็นตัวแทนของคนที่อาจจะเป็นลูกครึ่งเชื้อชาติต่าง ๆ ถ้าเกิดและโตในไทย ก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง

“ไม่ว่าจะเป็นคนประเทศไหนๆ ก็ตาม นิต้าว่าเรานับจากการที่เราถูกหล่อหลอมจากวัฒนธรรมแบบไหนมากกว่าเชื้อชาติ อย่างใบหน้านิต้า นิต้าไม่มีสิทธิเลือก ฉะนั้นเวลาที่คนเห็นหน้าตานิต้า ก็จะไม่พูดไทยด้วย นิต้าก็จะบอกกับเขาว่าคนไทยนะคะ พูดไทยได้นะคะ จะบอกทันทีเลยว่าเป็นคนไทย” มานิตากล่าว