น้ำมันรั่วมาบตาพุด : หลายหน่วยงานเร่งสกัดก่อนไหลลงทะเล “จิสด้า” พบเรือบรรทุกน้ำมันอัปปางกลางอ่าวไทย

สั่งด่วนที่สุด ‘กรมเจ้าท่า’ เร่งสกัด น้ำมันท่าเรือมาบตาพุด รั่วลงทะเล ใช้“แผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ” วราวุธ สั่ง ทช.และ คพ.ร่วมกับ ทร. ผวจ.ระยอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุม “ประยุทธ์” ห่วงใย สั่งทหารสนับสนุน

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เผยว่า ตนได้รับรายงาน เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกเดี่ยวกลางทะเล ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง จากการตรวจสอบไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

โดยจุดที่รั่วไหลทราบว่าเกิดจากท่อขนส่งน้ำมันดิบใต้ทะเล ปรากฎคราบน้ำมันครอบคลุมพื้นที่ กว้าง 200 เมตร ยาว 600 เมตร ส่วนปริมาณในการรั่วไหลยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน

ทั้งนี้ตนได้สั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่า ปฏิบัติตาม “แผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ” โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากทิศทางลมพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดระยองได้ รวมทั้งให้รายงานสถานการณ์และความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า คพ. ได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากหน่วยงาน สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เมื่อเวลา 00.10 น. ในวันที่ 26 มกราคม 2565 ว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวน 400,000 ลิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง จุดเกิดเหตุ คือ บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล (SPM) ซึ่งเกิดเหตุเมื่อ เวลา 21.06 น. ในวันที่ 25 มกราคม 2565 และจำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้ และหลังจากที่เกิดเหตุทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินบริษัทได้ทำการควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและได้ทำการหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย สามารถควบคุมและหยุดการรั่วไหลตั้งแต่เวลา 00.10 น.ของวันนี้

นายอรรถพล กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. ได้รับทราบและมีข้อสั่งการให้หน่วยงานใน ทส.โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)และ คพ.สนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับกองทัพเรือ จังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมน้ำมันจากการรั่วไหลและลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง

จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีน้ำมันดิบไหลลงทะเลประมาณ 400,000 ลิตร คพ. ได้รับการประสานจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) จำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้ คพ.ได้สนับสนุนการใช้แบบจำลอง OilMap ทำนายการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล โดยผลของแบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นว่าไม่มีการควบคุมป้องกัน กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงถึงบริเวณอุทยาแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. ประมาณ 180,000 ลิตร ทั้งนี้ทางบริษัทจึงควรดำเนินการวางแผนในการจัดการคราบน้ำมันดังกล่าว และป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้ อธิบดี ทช. พร้อม อธิบดี คพ. ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และหน่วยงานตำรวจ ร่วมลงเรือไปติดตาม ณ พื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว

ผลการคาดการณ์ดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลม ความเร็วลม และกระแสน้ำ โดย คพ.จะประสานรับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับค่าในแบบจำลองให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงต่อไป

ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมรับทราบเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกเดี่ยวกลางทะเล ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยองแล้ว โดยได้แสดงความห่วงใย สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกับจังหวัดและบริษัทเอกชนรับมือผลกระทบแล้ว

โดยทางพล.อ.ประยุทธ์ขอให้หน่วยงานเร่งขจัดคราบน้ำมันโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด และป้องกันคราบน้ำมันไหลสู่ชายหาด โดยได้กำชับให้กระทรวงกลาโหม สนับสนุนกำลังพลและเรือในการแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มกำลัง พร้อมกันนี้ยังให้ประเมินผลกระทบทางทะเล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ยังเน้นให้แจ้งเตือนประชาชนในการประกอบอาชีพ เพื่อที่ประชาชนจะได้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติ ไม่เกิดความตื่นตระหนกจากสถานการณ์ โดยสำหรับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงขอให้รับฟังการแจ้งเตือนจากหน่วยราชการอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้สามารถควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันได้แล้ว และกำลังเร่งขจัดคราบน้ำมันในทะเล โดยกำลังเร่งมือทุกด้านเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็ว

จิสด้า เผยภาพดาวเทียม พบอีกจุดกลางอ่าวไทย

จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลที่ชื่อ ป. อันดามัน 2 จอดทอดสมอและอับปางลงกลางอ่าวไทย ซึ่งมีระยะห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล โดยภายในเรือมีน้ำมันอยู่ประมาณ 5 แสนลิตร ส่งผลให้มีน้ำมันบางส่วนรั่วไหลออกมา นั้น

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า(GISTDA) เผยภาพจากดาวเทียม Sentinel-1 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 18.36 น. พบคราบน้ำมันลอยบริเวณชายฝั่งจังหวัดชุมพร ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มน้ำมันจากตำแหน่งที่เรืออับปาง (ดาวสีแดง) เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 ไหลย้อนขึ้นไปทางทิศเหนือ (กรอบสีเหลือง) ระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร

โดย GISTDA ได้คาดการณ์การเคลื่อนตัวและทิศทางของคราบน้ำมันไปจนถึงวันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ด้วยระบบ Geo-Spatial for Maritime System หรือ GMaS พบว่าคราบน้ำมันมีแนวโน้มเคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือค่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ (เส้นสีน้ำเงิน) ทั้งนี้ ข้อมูลจากการวิเคราะห์ ทาง GISTDA จะส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้วางแผน ติดตาม ตรวจสอบในพื้นที่ต่อไป