วันที่ 15 ธันวาคม 2564 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญในวันนี้ 1 ในวาระที่พิจารณากันคือ การลงมติรับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งฉบับภาคประชาชนที่รณรงค์ภายใต้แคมเปญ #ปลดอาวุธคสช. และฉบับของส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ที่เคยยื่นไว้ หลังถูกเลื่อนการพิจารณา ล่าสุด สภาลงมติไม่รับหลักการทั้ง 2 ฉบับ สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลทางการเมืองของกลุ่มฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลซึ่งสืบทอดอำนาจต่อจากคสช.ยังคงไม่ยอมสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้จากคำสั่งของรัฐบาลเผด็จการทหาร ท่ามกลางเสียงต่อต้านรัฐบาลจากประชาชนที่ค่อยๆขยายตัวมากขึ้น

มติดังกล่าว โครงการกฎหมายเพื่ออินเตอร์เน็ตประชาชนหรือไอลอว์ รายงานผลการลงมติร่างพรบ.ดังกล่าวว่า

สภาผู้แทนราษฎรคว่ำร่างพ.ร.บ. #ปลดอาวุธคสช ที่ประชาชน 13,409 คน ร่วมกันเข้าชื่อเสนอ ด้วยคะแนนเสียงไม่เห็นด้วย 234 เสียง เห็นด้วย 161+1 = 162 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ปัดตกข้อเสนอ #รื้อมรดกคสช เพื่อยกเลิกประกาศและคำสั่งคสช. ที่ขัดต่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย

นอกจากนี้ สภาผู้แทนราษฎรยังไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศและคำสั่งคสช. ที่เสนอโดยส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ด้วยคะแนนเสียงไม่เห็นด้วย 229 เสียง เห็นด้วย 156+1 = 157 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง สภาฯ ปัดตกทุกข้อเสนอ #รื้อมรดกคสช ไม่ว่าจะของภาคประชาชนหรือจากส.ส.

ก่อนหน้านี้ บีบีซีไทยรายงานเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ว่า โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) แจ้งผ่านเพจว่า “ปลดอาวุธ คสช. เข้าไม่ทัน ลุ้นต่อพุธหน้า 8 ธ.ค.” ซึ่งก็ถูกเลื่อนออกไปอีกจนมาเป็นวันนี้ (15 ธ.ค.)

ทั้งนี้ ร่างพรบ.ดังกล่าว ในส่วนฉบับภาคประชาชนนั้น ไอลอว์ พร้อมด้วย เครือข่ายภาคประชาชน 23 องค์กรริ่เริมรวบรวมรายชื่อประชาชน ตั้งแต่ ม.ค. 2561 เพื่อเสนอให้ยกเลิกประกาศ/คำสั่ง คสช. รวม 35 ฉบับ ที่พวกเขามองว่ามีเนื้อหาจำกัดสิทธิประชาชน 24 มิ.ย. 2562 ไอลอว์เสนอร่างกฎหมาย “ปลดอาวุธ คสช.” ต่อสภาผู้แทนราษฎร พร้อมรายชื่อประชาชน 13,409 คน ต่อมาสำนักงานเลขาธิการสภาได้ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วน ปรากฏว่าเหลือรายชื่อ 12,609 คน

สาระสำคัญของการออกกฎหมายที่เรียกว่า ปลดอาวุธคสช.ที่ยังคงมีอิทธิพลอยู่แม้ คณะรัฐบาลเผด็จการทหาร คสช.จะสิ้นสุดลงในกรกฎาคม 2562 ว่า ประกาศ/คำสั่ง คสช. เหล่านี้สมควรยกเลิก เพราะหลายฉบับออกมาในช่วงเวลาการยึดอำนาจ หลายฉบับมีเนื้อหาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อควบคุมการต่อต้านในจังหวะที่เข้ายึดอำนาจ เมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ควรคืนสิทธิเสรีภาพให้กลับสู่ภาวะปกติ