ก้าวไกล ลั่นพร้อมทุกเมื่อชิงผู้ว่าฯ กทม. อัดเหลี่ยมประยุทธ์ ยื้อเลือกตั้ง รอตัวเองพร้อม

‘ก้าวไกล’ รอเปิดตัวแคนดิเดตผู้ว่าฯกทม. หลังประกาศนโยบาย แย้ม ทำงานอยู่ในทีมนโยบาย กทม. ชี้ ‘ประยุทธ์’ เคาะเลือกตั้ง เมื่อมีแต้มต่อ-สางปัญหาขัดแย้ง พปชร. แล้วเสร็จ
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้งผ้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ว่า เรามีรายชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แล้ว และทำงานอยู่ในทีมนโยบายกทม. แล้วด้วย แต่เราคุยกันในทีมแคมเปญว่าเราจะเปิดตัวนโยบายก่อน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำนโนบาย ซึ่งแล้วเสร็จไปกว่า 80-90% หลังจากนั้นถึงจะประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เรามีแนวทางว่าจะเอานโยบายเข้าสู้กับคนกทม. เพราะเราอยากเห็นว่าความต้องการของคนกทม.เป็นแบบไหนและนโยบายของเราตอบโจทย์หรือไม่ ไม่อยากให้ชูตัวบุคคลว่าเป็นคนเด่นคนดัง อยู่ในวงการการเมืองหรือไม่ อยู่ในข้าราชการตำแหน่งสูงหรือไม่ แล้วเข้ามาโดยใช้บุคคลเป็นที่ตั้ง เราไม่อยากให้ออกมาในรูปแบบนั้น เราอยากให้ออกมาตามที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยบอกไว้ว่าผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลมีสโลแกน คือ “ใหม่ ชัด โดน” ซึ่งทั้งสามส่วนต้องเกิดจากการทำงานรูปแบบใหม่ที่เอานโยบายที่จะตอบโจทย์คนกทม. พอกันทีกับการที่คนกทม.ต้องเลือกคนเด่นคนดังที่อยู่ในหน้าสื่อตลอด ซึ่งไม่จำเป็น และในสถานการณ์ตอนนี้สัญญาณยังไม่ชัดเจนว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ฉะนั้น สิ่งที่เราต้องทำ คือ เปิดตัวนโยบายแล้วดูฟีดแบ็กจากคนกทม. ถ้านโยบายตอบโจทย์เราก็จะเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระบุว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสม บ้านเมืองสงบเรียบร้อยก่อน นายณัฐชา กล่าวว่า ตนว่าไม่ใช่ เขารอให้ตัวเองมีแต้มต่อมากกว่า เพราะตอนนี้น่าจะกำลังเคลียร์คนภายใน เนื่องจากมีการแย่งชิงกันมาก ตั้งแต่สมัยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และดูแลทีมกทม. มาจนถึงพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. และผู้สมัครหลายๆ คนก็เชื่อมโยงกับผู้สมัครพรรค พปชร. ซึ่งตนคิดว่าสนามกทม.รอบนี้ น่าจะเป็นเกมการตัดคะแนนกันมากกว่า ฉะนั้น ทางฝั่งพรรค พปชร. หรือทางฝั่งนายกฯ ตนคิดว่าไม่ได้ดูสถานการณ์การเมืองหรือสถานการณ์โควิด-19 แต่ดูว่าตัวเองพร้อมมากน้อยแค่ไหน และเคลียร์ปัญหาภายในเรียบร้อยแล้วหรือยัง ถ้าเคลียร์สถานการณ์ภายในพร้อมแล้ว และดูแนวโน้มว่าตัวเองน่าจะมีชัย วันเวลานั้นนายกฯ จะเคาะวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

“อย่างไรก็ตาม พรรคก.ก. พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. หรือแคนดิเดตสมาชิกสภากทม. (ส.ก.) เราก็ได้ครบแล้วทั้ง 50 เขต ไม่ว่าจะนโยบายที่แล้วเสร็จไปเกือบ 80-90% ถ้าสมมติจะมีการเลือกตั้งภายในเดือน มกราคม-มีนาคม 2565 เราก็พร้อมทุกเดือน และผมคิดว่าสนามเลือกตั้งกทม.ครั้งนี้ เป็นสนามที่ไม่ได้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ระดับผู้บริหารกทม.มาเป็นเวลานาน และการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของคนกทม. คือ การเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งอดีตพรรคอนาคตใหม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม. 30 คน เป็นคนใหม่ทั้งหมด เราคว้าชัยชนะมาได้ 9 เขต และได้เสียงป๊อปปูลาร์โหวตเป็นอันดับหนึ่ง ฉะนั้น เราเชื่อว่าความไว้วางใจของคนกทม.ยังคงดำเนินรอยตามพรรคอนาคตใหม่สานต่อไปยังพรรคก.ก. ซึ่งเรายังมีทิศทางและอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่เช่นเดิม แต่แนวทางการบริหารระดับท้องถิ่นเราต้องเปิดตัวแคมเปญนโยบายของกทม.เพื่อประชาชนก่อน ซึ่งเราใส่ใจเป็นอันดับหนึ่ง และเราหวังว่านโยบายที่คิดออกมาจะตอบโจทย์คนกทม. หากไม่ตอบโจทย์เราก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นในอีกหลายครั้งๆ เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนให้ตกผลึกและส่งต่อให้คนกทม. เพราะเราเห็นความสำคัญของความต้องการของคนกทม.เป็นอันดับแรก” นายณัฐชา กล่าว