#ท้าเปลี่ยนประเทศไทย : หมอชลน่านชี้ สิ่งแรกต้องเปลี่ยนด่วน คือรัฐบาลใหม่ด้วยกลไกประชาธิปไตย

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 13.10 น. ที่ห้องประชุมข่าวสด มติชนสุดสัปดาห์ นิตยสารรายสัปดาห์ที่เป็นชุมชนนักคิด คอลัมนิสต์ที่นำเสนอแง่มุม ให้วิเคราะห์ ต่อยอดและถกเถียงแลกเปลี่ยน ได้ก้าวสู่ครบรอบปีที่ 42 ของนิตยสาร ได้จัดงานเสวนา 2565 ท้าเปลี่ยนประเทศไทย เชิญบุคคลสำคัญของพรรคการเมืองชั้นนำของไทยมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ภาคการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศหลายมิติ หลังผ่านวิกฤตโควิด-19

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงทัศนะว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงประเทศว่า ท้าเปลี่ยนประเทศไทย เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุดในยุคนี้ ด้วยเวลาอันสั้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พี่น้องประชาชนได้รู้ว่า ประเทศไทยต้องเปลี่ยนอย่างไร ประเทศไทยขณะนี้ ถ้าไม่เปลี่ยน ไม่ท้าเปลี่ยน ประเทศไทยจะไม่มีอยู่ในโลก เพราะย่ำแย่เหลือเกิน โดยเฉพาะ 7 ปีที่ผ่านมา พี่น้องดำเนินชีวิตด้วยความสิ้นหวัง ลูกหลานไร้อนาคต ไร้ทิศทาง เป็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยได้บอกกล่าวว่า เราต้องช่วยกันเปลี่ยนประเทศไทย ไม่ต้องท้า เราต้องทำ จะทำอย่างไรให้มีโอกาสได้

“ด้วยพลังของพี่น้องประชาชน เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงทำได้ โดยพรรคเราพร้อม ที่จะเปลี่ยนแปลง สิ่งที่อยากบอกผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง แรกสุดคือ ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ตราบใดที่ยังดักดาน ปิดหูปิดตา ทำไม่ได้ จากการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เราเปลี่ยนแปลงพรรคเราทั้งสัญลักษณ์ โครงสร้างบริหารจัดการ เปลี่ยนรูปแบบของสิ่งที่นำเสนอให้จับต้องได้นั้นคือ สิ่งที่เราบอกกับประเทศนี้ว่าต้องเปลี่ยน เหมือนที่เพื่อไทยเปลี่ยน จากประสบการณ์ที่เปี่ยมล้นจากไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทยพรุ่งนี้เพื่อประชาชน ขับเคลื่อนสู่ชีวิตใหม่ของพี่น้องประชาชน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

การจะมีชีวิตใหม่ได้ นอกจากการเปลี่ยนแปลง ท้าเปลี่ยนนี้ไม่พอ กลไกที่สำคัญที่สุดคือ ตัวกลางและการมีส่วนร่วมต้องเปลี่ยน จะให้ใครมาใช้อำนาจเราแสวงหาประโยชน์โดยไม่มีประชาชนเป็นตัวกลาง สิ่งสำคัญคือ เราเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเข้าสู่อำนาจและใช้อำนาจ ถ้าจะเปลี่ยนประเทศปี 2565 คือต้องเปลี่ยนรัฐบาลชุดนี้ออกไปด้วยกลไกประชาธิปไตย อยากให้โอกาสกับประชาชนโดยเร็วที่สุด มามอบให้เราได้อย่างแท้จริง รัฐธรรมนูญ กฎหมายที่ล้าหลัง เป็นภัยกับพี่น้องประชาชนต้องเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนแล้ว เพื่อไทยมีทิศทางชัดเจน ไม่ว่าด้านขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ไม่ว่าคมนาคมหรือแหล่งน้ำที่คั่งค้าง เกษตรกรรมแบบใหม่โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ เราแสวงหาการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่จับต้องได้ ที่สามารถใช้ในการดำเนินชีวิตได้ กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราประเทศไปแล้วที่ขอนแก่น เป็นแนวทางขับเคลื่อน ด้วยกระบวนการ เอาคนในอดีตและพลังของอนาคตมีร่วมกำหนดทิศทาง ความหวังและโอกาสในการเปลี่ยนแปลง ต้องผ่านจากอดีตที่ประสบความสำเร็จ จากคนที่พรรคเพื่อไทยมีพร้อมหลายด้าน เรามีทีมงานที่บอกได้ว่ามีความเชื่อมั่นนำพาสู่ประเทศ

ถึงเวลาต้องเปลี่ยน เพื่ออนาคตเรา แต่จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับจากการมีส่วนร่วมกับประชาชน เลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลายเพื่อเอาอำนาจที่นำมาปรับเปลี่ยน นำสิ่งที่ดีให้พี่น้องประชาชน อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ใช้อำนาจนี้ลบล้างอำนาจแฝงของเผด็จการ ไม่สิ้นหวังครับ มาร่วมกัน เปลี่ยนประเทศไทยในปี 2565

เมื่อถามถึงเวลาที่จะฟัง อะไรคือนโยบายหรือวิธีคิดของเพื่อไทย ฟังใครคำตอบสุดท้ายนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ฝ่ายบริหารเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ เรามีคณะทำงานของคณะทำงานยุทธศาสตร์ออกมาเป็นนโยบาย ฟังในนามเพื่อไทยผ่านกระบวนการเขียนเป็นนโยบายแล้ว เป็นคำถามที่ถามเยอะมาก เรามีคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม คณะเศรษฐกิจ สังคมและการศึกษา กว่า 10 คณะแต่ที่เรากล้าบอก เทคโนโลยีความรู้ จะส่งต่อมาคนเหล่านี้ รับอะไรมานำเข้าสู่กระบวนการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ใครพูดก็ได้ ใครเสนอก็ได้ ไม่มีการครอบงำ ตรวจสอบได้ กระบวนการทำเป็นนโยบาย

เมื่อกล่าวถึงนโยบายกับคนรุ่นใหม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า สิ่งที่เราบอกกับคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่จับต้องได้ บนพื้นฐานของการเป็นหุ้นส่วน ผ่านนวัตกรรมต่างๆ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมสร้าง มั่นใจว่าถ้าเป็นหุ้นส่วน สิ่งที่เราส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ จะทำให้เขาเห็นว่ามีความหวัง คือตลาดคนรุ่นใหม่ เป็นที่เราต้องแสวงหา กลไกนี้ คนรุ่นใหม่เป็นคนมีการศึกษา การขับเคลื่อนส่งต่อผ่านข้อมูล คนรุ่นใหม่ส่งต่อเป็นรุ่นๆ ได้

ทั้งนี้ ในส่วนคำถามว่าประเด็นครอบงำพรรคเกี่ยวกับคนของชินวัตร หลังการเปิดตัวน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องการครอบงำพรรค ทุกคนมีสิทธิ์มองว่าคุณอุ๊งอิ๊งมายังไง เขาอาจมองว่าอุ๊งอิ๊งมาก็ได้ความคิดความอ่านจากคุณทักษิณ ด้วยกลไกที่ถูกต้อง คนรุ่นใหม่มองเรื่องการจับต้องได้ การทำให้เกิดนวัตกรรม เราขายมุมที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้