“อรุณี” ชี้ไม่ใช่แค่บ้านเรือน-ไร่นา อุทกภัย ยังทำปชช.น้ำตาท่วม เพราะรัฐบาลเยียวยาไม่ชัดเจน

วันที่ 19 ตุลาคม 2564 น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดต่อภาพรวมของเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่และผลกระทบกับประชาชนที่ต้องประสบภัยท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีการระบาดอยู่ว่า

น้ำไม่ได้ท่วมแค่บ้าน ไม่ได้ท่วมแค่ไร่นา แต่ท่วมที่ตาของประชาชนด้วย

ในช่วงเวลานี้นอกจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่สร้างความทุกข์ให้กับประชาชนในทุกมิติแล้ว สิ่งที่มาตอกย้ำความทุกข์ให้กัประชาชนซ้ำเติมเข้าอีก ก็คงจะเป็นเรื่องของ “น้ำท่วม” ที่กำลังเกิดขึ้นกว่า 40 จังหวัด
.
พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบอย่างยิ่ง หลายหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก วัวควายไร่นาที่ทำกินจมอยู่ใต้บาดาล หนำซ้ำรัฐก็ไม่มีมาตรการใด ๆ ที่ชัดเจนในการช่วยบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน ในวันที่หญิงลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน หญิงไม่แน่ใจแล้วว่าระหว่างน้ำที่ท่วมกับน้ำตาของประชาชนอะไรจะมากกว่ากัน
.
จากที่หญิงได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในหลายพื้นที่มา โดยเฉพาะที่จังหวัดมหาสารคามและลพบุรี หญิงพบว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก หลายพื้นที่น้ำท่วมขังต่อเนื่องมาแล้วกว่า 2 สัปดาห์ ประชาชนบางส่วนไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำสะอาดบริโภค หลายครอบครัวต้องหนีออกจากบ้านมาอาศัยรวมกันที่พื้นที่กลางของชุมชน หนีไปนอนกันที่วัด ไปนอนกันที่ศาลาอเนกประสงค์ของโรงเรียน
.
อย่างคุณยายอายุ 89 ปี ที่จังหวัดลพบุรีที่หญิงได้เข้าไปช่วย คุณยายช่วยเหลือตัวเองแทบจะไม่ได้ ต้องติดอยู่ในบ้านคนเดียวกับแมวอีก 2-3 ตัว ต้องคอยอาศัยพี่น้องชาวบ้านช่วยเหลือนำอาหารแห้งและน้ำดื่มไปให้ สุขอนามัยก็ไม่ดีเพราะเวลาน้ำท่วมก็ต้องขับถ่ายกันตามมีตามเกิด ไร้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ
.
วัวควาย ไร่นาก็ได้รับผลกระทบอย่างยิ่ง หมู หมา วัว ควายบ้างก็ช่วยทัน บ้างก็ช่วยไม่ทัน ที่ช่วยทันก็ต้องย้ายไปไว้ที่ดอน บ้างก็เอาไปไว้กลางถนน บ้างก็ต้องอยู่กินนอนร่วมกับสัตว์เลี้ยงเพราะสำหรับบางคน นี่คือชีวิตและปากท้องของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความลำบากให้ทั้งคนทั้งสัตว์
.
ไม่เพียงแต่ความยากลำบากในการใช้ชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเท่านั้น พื้นที่การเกษตร พื้นที่ชีวิต พื้นที่ปากท้อง พื้นที่ความหวัง และพื้นที่อนาคตของเขา ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน ข้าวในนาที่ปลูกไว้จมอยู่ใต้น้ำกว่า 2 อาทิตย์ เริ่มตาย เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น คุณตาท่านหนึ่งที่จังหวัดลพบุรี ระบายกับหญิงว่าพื้นที่ของแกเป็นพื้นที่รับน้ำ น้ำมากน้ำน้อยก็ท่วมแทบทุกปี ราคาข้าวก็ถูก น้ำก็ยังจะมาท่วม จะให้คนอื่นเช่าทำนาก็ไม่มีใครเช่าเพราะต้องเจอน้ำท่วมทุกปี ทำไปก็ไม่คุ้ม จะขายทิ้งก็ไม่ได้เพราะเป็นที่ดินมรดกพ่อแม่ให้ไว้ ตอนนี้ลูกหลานก็ไม่มีใครอยากได้ ถ้าตายไปลูกหลานก็คงขายทิ้ง
.
นี่คือเสียงสะท้อนความยากลำบากของประชาชนบางพื้นที่ที่หญิงได้พบเจอด้วยตัวเองนะคะ แต่จริง ๆ แล้วในภาพใหญ่มีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างหนักไม่ต่างกัน หรือบางพื้นที่อาจจะหนักกว่าที่หญิงเจอด้วยซ้ำไป
.
หากดูข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตรประเมินผลกระทบจากพายุเตี้ยนหมู่พบว่า มีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายกว่า 42 จังหวัด คิดเป็นจำนวนเกษตรกร 350,492 ราย โดยพื้นที่ปลูกข้าวเสียหายมากที่สุดกว่า 2,797,473 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,583,372 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น และอื่น ๆ 27,904 ไร่ รวมกว่า 4,408,749 ไร่
.
นี่ผลกระทบแค่พายุเตี้ยนหมู่นะคะ ยังมีพายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ ที่กำลังมาอีก กรมอุตุนิยมวิทยารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการอะไรมาลองรับหรือมาช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเลย
.
จากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับประชาชนนั้น สิ่งที่รัฐบาลมอบให้ประชาชนคือ “ความไม่ชัดเจน” ในมาตรการการช่วยเหลือเยียวยา สิ่งที่ได้จากรัฐบาลมีเพียงแต่แจกถุงยังชีพบางพื้นที่ กับนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ไปแบบไม่เกิดประโยชน์อะไร
.
บ้างก็ไปบ่นประชาชน ไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่รัฐบอก บ้างก็ไปขอความรัก บอกรักชาวบ้าน สวัสดีคิดถึงกันไหม ผมรักคุณ หญิงไม่เข้าใจท่านนายกเลย ไม่รู้หรอกเหรอคะว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์แบบนี้ มันควรเป็นการเข้าไปรับฟังปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบและรีบเร่งออกมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่การลงพื้นที่ไปหาเสียง ท่านเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า
.
ในสมัยนายกยิ่งลักษณ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่ถึงหนึ่งปี เกิดมหาอุทกภัย ปี 2554 อุทกภัยดังกล่าวทำให้พื้นดินกว่า 150 ล้านไร่ เป็นทั้งพื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมใน 65 จังหวัด 684 อำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4,086,138 ครัวเรือน 13,595,192 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 2,329 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 96,833 หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 11.20 ล้านไร่ ถนน 13,961 สาย ท่อระบายน้ำ 777 แห่ง ฝาย 982 แห่ง ทำนบ 142 แห่ง บ่อปลา บ่อกุ้ง หอย 231,919 ไร่ ปศุสัตว์ 13.41 ล้านตัว อุทกภัยครั้งนี้ถูกกล่าวขานว่าเป็น “อุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดทั้งในแง่ของปริมาณน้ำและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ”
.
สิ่งที่นายกยิ่งลักษณ์ทำคือ เร่งประกาศภาวะภัยพิบัติฉุกเฉินทั่วประเทศ กลางเดือนสิงหาคม เริ่มปฏิบัติการเฝ้าตรวจและบรรเทาสาธารณภัยอุทกภัยแบบรวมศูนย์ เดินทางเยี่ยมจังหวัดที่ประสบอุทกภัย มอบหมายให้สมาชิกคณะรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภาเยี่ยมราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จัดตั้งศูนย์สนับสนุนการอำนวยการบริหารสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ภายใต้กำกับของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
.
จัดสรรงบประมาณบรรเทาอุทกภัยเพิ่มเติมให้แก่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ให้คำมั่นว่าจะลงทุนในโครงการป้องกันระยะยาว จัดเรือหลายร้อยลำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อขับดันน้ำด้วยใบจักร เพิ่มการไหลของน้ำลงสู่ทะเล ให้การประปานครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการผ่อนผันการชำระค่าประปาและค่าไฟฟ้า
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้เบิกจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทต่อครอบครัว โดยมี 62 จังหวัดเข้าข่ายได้รับเงินเยียวยา
.
ในระยะยาวนายกยิ่งลักษณ์มีแผนวางระบบการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ ตามกรอบวงเงินไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท ความเสี่ยงภัยน้ำท่วม-น้ำขาดจะหมดไปเกือบสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2560 ชีวิตประชาชนจะปลอดภัย เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างมั่นคง แต่สุดท้ายก็โดนฟ้องและยุติโครงการไปทั้งที่มุ่งหวังทำเพื่อประชาชน ถ้าโครงการนี้สำเร็จ ตอนนี้ท่านประยุทธ์อาจจะไม่ต้องเหนื่อยโดนประชาชนรุมด่าตลอดเวลาที่ลงพื้นที่น้ำท่วมก็ได้นะคะ
.
หากเทียบกับมาตรการน้ำท่วมปี 2564 ของนายกประยุทธ์ มีอะไรบ้างคะ แนะนำให้ประชาชนรู้จักเรียนรู้และปรับตัวเพื่อประกอบอาชีพต่อไป มีมาตรการเงินช่วยเหลือเกษตรกร ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ พืชไร่ และ พืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ เงินเยียวยาที่ให้ประชาชนเอาจริง ๆ นะคะ ยังไม่ได้ค่าปุ๋ยนาข้าวเลยค่ะ แล้วยิ่งต้องมาแบ่ง ต้องมานั่งสำรวจ อีกว่าปลูกอะไรได้เงินเท่าไหร่ ให้เงินให้ไม่เกิน 30 ไร่ คำถามของหญิงคือ “แล้วเมื่อไหร่ประชาชนจะได้เงินเยียวยา”
.
มาถึงสิ่งที่หญิงอยากเสนอ คือ อย่าอายที่จะนำสิ่งดี ๆ ในอดีตมาทำเพื่อประชาชน ถ้าท่านและคณะรัฐมนตรีของท่านไม่สามารถที่จะคิดอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ได้ ท่านสามารถคัดลอกหรือนำโครงการของท่านนายกยิ่งลักษณ์มาใช้ได้เลยนะคะ
.
มันไม่ใช่เรื่องหน้าอายที่จะทำเพื่อประชาชน สิ่งที่ท่านควรอายคือการทำรัฐประหาร การออกกฎหมายเอื้อพวกพ้อง การขึ้นมามีอำนาจโดยไม่ผ่านมติของประชาชน สิ่งเหล่านี้ท่านกลับไม่อาย แต่สิ่งดี ๆ ที่ท่านควรจะทำเพื่อประชาชน ท่านจะมาอายเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ถ้าท่านรู้สึกอายที่จะทำเพื่อประชาชนในลักษณะแบบนี้ มันคือสิ่งตอกย้ำว่า แท้จริงแล้วท่านไม่ได้มาเพื่อประชาชน ไม่ได้อยู่เพื่อประชาชนจริง ๆ แต่ท่านมาเพื่อตัวเอง และความอายนั้นก็เป็นเรื่องของท่าน ไม่ใช่ประชาชน
.
หญิงขอร้องค่ะ ประชาชนกำลังลำบาก ประชาชนกำลังทุกข์ระทมในหลาย ๆ ด้าน รีบแก้ไขปัญหาให้จบและจบแบบยั่งยืนด้วยนะคะ “อย่าทำให้ประชาชนต้องชินชากับความทุกข์ยากลำบากค่ะ” ไม่ว่าจะทั้งภัยธรรมชาติ ภัยเชื้อโรค ภัยจากรัฐบาล รวมถึงภัยจากผู้นำที่ไร้ประสิทธิภาพ