จากเหตุอาชญากรรมครั้งนี้ ทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ในรัฐเตลังคานา มีทั้งนักการเมือง นักแสดง ประชาชนหลั่งไหลเดินขบวนไปตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเด็ก ส่วนกระแสในโลกโซเชียลต่างเรียกร้องให้ประหารชีวิตคนร้าย

ด้านบ้านผู้ต้องสงสัยถูกกลุ่มมวลชนบุกพังทำลาย ขว้างข้าวของเครื่องใช้ออกมากองบนท้องถนน และเรียกร้องให้เอาตัวมาประชาทัณฑ์

หลายครั้งที่มวลชนอินเดียสนับสนุนให้ตำรวจเอาตัวคนร้ายมาสำเร็จโทษเอง โดยเฉพาะคดีที่เหยื่อเป็นเด็กเล็ก เพราะคนในสังคมอึดอัดกับการรอคอยกระบวนการยุติธรรม ที่ใช้เวลาเป็นปีๆ หรือหลายปี แม้แต่ 10 ปีก็มีมาแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ตำรวจเพิ่งเผยแพร่ภาพนายปัลละกนทะ ราชู ผู้ต้องสงสัยเพื่อล่าตัวมาดำเนินคดี พร้อมตั้งเงินรางวัลสำหรับผู้ให้เบาะแสไว้ 1 ล้านรูปี หรือเกือบ 5 แสนบาท

กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยกับนักข่าวบีบีซี ว่า พบร่างนายราชูที่รางรถไฟ ดูเหมือนฆ่าตัวตาย โดยพนักงานรถไฟพยายามจะเข้าไปช่วยแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ตำรวจระบุด้วยว่า รอยสักที่แขนของศพทำให้ยืนยันได้ว่าเป็นนายราชู

แต่มีหลายคนสงสัยว่า ทั้งหมดนี้เป็นการจัดฉาก หลังจากตำรวจพบตัวนายราชูแล้วนำไปสอบสวน ก่อนสังหารแล้วอำพรางว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

พิรุธอีกเรื่องมาจากที่ภรรยานายราชูเผยว่า ช่วงเช้าวันพฤหัสฯ ที่ 16 ก.ย. นางได้รับสายจากตำรวจบอกว่าให้ไปพบสามีที่โรงพัก แต่แล้วกลับกลายเป็นพบศพในช่วงสายของวันนั้น

เช่นเดียวกับกรณีที่นายเคที รามาเรา รัฐมนตรีของรัฐเตลังคานา เดิมทวีตว่า นายราชูถูกจับตัวแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ แต่ต่อมากลับโพสต์แก้ไขว่า ตำรวจยังล่าหาตัวอยู่ เช่นเดียวกับ นายมัลลา เรดดี รมว.แรงงาน ระบุว่า ตำรวจจับคนร้ายข่มขืนฆ่าเด็กได้แล้ว และจัดการไปเรียบร้อยแล้ว

ศ.กัลปานะ กันนาพิราน นักสังคมวิทยา และทนายความในเมืองไฮเดอราบาด กล่าวว่า ขณะนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนว่า ไม่ได้จัดฉาก

เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตำรวจในเมืองไฮเดอราบาดถูกกล่าวหาว่า ใช้ศาลเตี้ยจัดการผู้ต้องสงสัยคดีข่มขืน อย่างคดีเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ตำรวจเคยยิงชาย4 คนรวด ที่ถูกต้องสงสัยว่าเป็นผู้ข่มขืนและฆ่าสัตวแพทย์หญิง อายุ 27 ปี

ตอนนั้นทั้ง 4 คนอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจ และนำไปยังจุดเกิดเหตุ ก่อนถูกสังหาร อ้างว่า คนร้ายแย่งปืนและต่อสู้เพื่อพยายามจะหนี แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนโต้แย้งว่า ตำรวจใช้ระบบศาลเตี้ยจัดการ จนทำให้ศาลฎีกาต้องสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน แม้ว่ามวลชนจะจุดพลุเฉลิมฉลองที่ตำรวจปลิดชีพคนร้ายทั้งหมด และยกย่องให้เป็นฮีโร่

“คุณไม่อาจจะหยุดการข่มขืนด้วยการทำให้ถนนกลายเป็นทุ่งสังหารได้หรอก คดีที่ตำรวจสังหารผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คนเมื่อเดือนธ.ค. 2562 ด้วยการยิงทิ้ง ก็เห็นอยู่ว่า มันหยุดคดีข่มขืนได้หรือไม่ล่ะ ความคิดที่จะทำไม่รู้ไม่เห็นและทำให้รอดพ้นการดำเนินคดี โดยอ้างว่าคืนความยุติธรรมให้ผู้หญิง มันเป็นเรื่องผิดที่ผิดทางอย่างยิ่ง” ศ.กันนาพิราน กล่าว

อาจารย์ท่านนี้มองว่า ตำรวจใช้วิธีเอาง่ายๆ ไม่ต้องอาศัยการสอบสวนที่รอบด้านรัดกุม ทั้งที่การสอบสวนที่ยุติธรรมและเต็มรูปแบบในแต่ละคดีจึงจะทำให้เกิดความยุติธรรมที่แท้จริง