คุกคามเสรีภาพสื่อ? รองโฆษก ตร.อ้างทำข่าวชุมนุม ฟรีแลนซ์-ยูทูบเบอร์ต้องมีต้นสังกัด

รองโฆษก ตร.ย้ำทำข่าวชุมนุม ฟรีแลนซ์-ยูทูบเบอร์ ทั้งไทยและ ตปท.ต้องยืนยันต้นสังกัด พิสูจน์ทราบไม่ได้จะดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 ของกลุ่มทะลุแก๊ซ บริเวณแยกดินแดง

ในตอนหนึ่ง พ.ต.อ.กฤษณะระบุถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวการชุมนุม ว่ากรณีฟรีแลนซ์ ยูทูบเบอร์ ทางสมาพันธ์สื่ออยู่ระหว่างจัดระเบียบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งสื่อไทยและสื่อต่างประเทศต้องปฏิบัติตามสื่อมวลชนโดยทั่วไป มีการยืนยันต้นสังกัด สัญลักษณ์บอกฝ่าย ไม่มีใครได้รับอภิสิทธิ์ทำข่าว เนื่องจากในพื้นที่มีตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แพทย์พยาบาล หน่วยกู้ภัย

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า นอกเหนือจากนี้ ยังมีสื่อมวลชนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อรายงานข่าว หากไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้เป็นสื่อมวลชนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการเข้ามาสังเกตการณ์ต้องมีการทำหนังสือส่งมาให้รับทราบ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแฝงตัวของมือที่สามเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวาย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากหน่วยควบคุมฝูงชน ได้จับกุมนักข่าวพลเมือง 2 คน ที่ทำการไลฟ์รายงานสถานการณ์ชุมนุม ได้แก่ สำนักข่าวราษฎร และเพจปล่อยเพื่อนเรา

ทั้งนี้ จากการติดตามรายงานข่าวของสำนักข่าวราษฎร มีการรายงานข่าวติดตามสถานการณ์การชุมนุมบริเวณแยกดินแดง และเป็นที่แรกที่ให้ชื่อกลุ่มผู้ชุมนุมในบริเวณนั้นว่า “ทะลุแก๊ซ” และมีการรายงานข่าวหลายครั้งที่อยู่ในจังหวะที่จับภาพ การกระทำของตำรวจควบคุมฝูงชนที่นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่า การยิงปืนกระสุนยาง อัดใส่ผู้สัญจรที่ขี่จักรยานยนต์ระยะเผาขน หรือจับภาพกลุ่มตร.ควบคุมฝูงชน รุมจับผู้ชุมนุมรายหนึ่งและทุบตีหลายครั้งทั้งที่ผู้ชุมนุมไม่ขัดขืน และจากการได้จังหวะภาพที่แสดงถึงการใช้อำนาจเกินเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า เป็นเหตุทำให้สำนักข่าวราษฎรถูกเจ้าหน้าที่รัฐตั้งเป็นเป้าหมายและไล่ล่าหาตัวเพื่อไม่ให้รายงานภาพการกระทำที่ถูกมองว่าป่าเถื่อนและเกินขอบเขต