ก้าวไกล ชี้ MV ลิซ่าสุดปัง! ทั่วโลกเปิดโอกาสโอบรับวัฒนธรรมไทย ซัดเเรงอย่าดัดจริตเรื่อง ชฎา

สุดปัง !!! ครูธัญก้าวไกล ชี้ คนไทยไม่แพ้ชาติใดโลก หลังมิวสิควีดีโอ เปิดตัวเพลงใหม่ ลิซ่า BLACKPINK เพียงหนึ่งชั่วโมงยอดวิวเกือบสิบล้าน ย้ำ ทั่วโลกเปิดโอกาส โอบรับวัฒนธรรมไทยอย่างหลากหลาย ซัดเเรง กระเเสวิพากษ์ไม่เหมาะสม เป็นคนไทยด้วยกันเอง อย่าดัดจริต ชฎา อัตลักษณ์ความเป็นไทยสอดคล้องบริบทสมัยใหม่อย่างหลงตัว

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงจากกรณีที่เป็นกระแสไปทั่วโลกในการเปิดตัวอัลบั้มใหม่เพลงแรก LALISA ปล่อยลงในสื่อออนไลน์ของ ลิช่า หรือ ลลิษา มโนบาล สมาชิกวง BLACKPINK กับโปรเจ็คผลงานเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วย ยอดคนดูเกือบสิบล้านในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

ธัญวัจน์ กล่าวว่า นับเป็นความสำเร็จของศิลปินหญิงมากความสามารถทั้งด้านการร้อง การเต้น การแสดง และบุคลิกที่โดดเด่นและความเป็นตัวเองที่คนทั่วโลกชื่นชอบ และนับเป็นประวัติศาสตร์ของวงการเพลงป๊อบเกาหลีที่ศิลปินกลุ่มจะแยกออกมาทำงานเดี่ยวของตนเองเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ส่งผลให้คนไทยนั้นมีความภาคภูมิใจในความเป็น “คนไทย” ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ที่เราทุกคนต่างมีความยินดี แต่คำถามต่อมาคือในวงการเพลงป๊อปไทยนั้นทำไมจึงยังไม่สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้ โดยหลังจากที่ตนได้ชมมิวสิควีดีโอก็อดชื่นชมในความสามารถของ ลิซ่า ไม่ได้ เพราะนอกจากมีเสียงร้องที่ดีแล้ว ยังทำการบ้านในการซ้อมเต้นอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแนวฮิปฮอป การเต้น Poll Dance (การเต้นกับเสา) ที่ต้องใช้ความอดทนมุมานะจึงจะทำได้ดี นอกจากนั้นการทำงานของผู้กำกับ หรือ การกำกับศิลปก็มีความน่าสนใจมากไม่ว่าจะเป็นฉาก สี และ มุมกล้องที่นำเสนอ สิ่งที่พูดถึงนอกจากสิ่งที่กล่าวมาคือแฟชั่นของลิช่าที่หลากหลาย

และซีนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือซีนที่มิวสิควีดีโอดังกล่าวนำเสนอ “ความเป็นไทย” ที่ลิช่าใส่ชฎา เครื่องประดับต่าง โดยคนไทย ผักกาด ประภากาศ อังศุสิงห์ ศรัณญ อยู่คงดี และ ชุดไทยที่ออกแบบโดย หมู พลพัฒน์ อัศวะประภา ASAVA ที่เมื่อได้ชมแล้วความเป็นไทยดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นแบบดั่งเดิมอนุรักษ์ แต่มีการประยุกต์ความเป็นสากลเข้าไป ที่แฟน ๆ ทั่วโลกต่างชื่นชมและได้เห็นความเป็นไทย ในความคิดเห็นของตน นี่คือความเป็นไทยที่แตกต่างไปจากเดิม ไม่จำเป็นต้องหยุดความเป็นไทยไว้ในความถูกต้องอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะวัฒนธรรมนั้นลื่นไหลเปลี่ยนแปลงได้ และนี่คือสิ่งที่ต้องการในวงการการสร้างสรรค์คือการพัฒนาและต่อยอดให้แตกหน่อความหลากหลายออกไป

“ความสำเร็จดังกล่าวนี้เราคงบอกไม่ได้ว่าเป็นความสำเร็จของลิช่าเพียงคนเดียว แต่ในภาคธุรกิจค่ายเพลง นักแต่งเพลง ผู้ออกแบบท่าเต้น และอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบสำคัญ และสิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่วัฒนธรรมเกาหลีนั้นกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างผลประโยชน์ในหลายภาคส่วนของประเทศเกาหลีเอง และหากมองความสำเร็จนี้แล้วไม่ใช่ว่าประเทศไทยนั้นทำไม่ได้ แต่รัฐต้องเปลี่ยนมุมคิด “การส่งออกวัฒนธรรม” นั้นต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงและลื่นไหล และความเป็นไปของนานาชาติ ทั้งด้านเพลง แฟชั่น การเต้น และอื่น ๆ อีกมาก หากเราเรายังกักขังความเป็นไทยแบบดั่งเดิมไว้ ก็ยากที่จะส่งออกวัฒนธรรม “ ธัญวัจน์ กล่าว

ธัญวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เรามีเด็กวัยรุ่นจำนวนมากที่ขื่นชอบการเต้น การร้อง และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาวงการเพลงป๊อปเกาหลีมีอิทธิพลมากต่อกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงเรามีร้านอาหารเกาหลี แฟชั่นเกาหลี นี่คือมูลค่าวัฒนธรรมของเกาหลีที่ถูกผลักดันและสนับสนุนโดยรัฐที่ร่วมกับภาคธุรกิจในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และหากเรามองความสามารถของศิลปินไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก บางท่านเคยไปร่วมงานกับศิลปินเกาหลี บางท่านเคยร่วมงานศิลปินต่างประเทศ คงขาดแต่ วิสัยทัศน์ และ พันธกิจ ของกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนที่เกี่ยวข้องต้องปรับเปลี่ยน เปิดกว้างวัฒนธรรมหลากหลายและผลักดันสู่ตลาดโลก

“ศิลปินไทยมีความสามารถ เราผลักดันได้หากใจเปิดกว้าง ดูกรณีลิซ่าที่ประสบความเสร็จ ที่คนไทยทำได้ ไม่ไกลเกินเอื้อม “ ธัญวัจน์ กล่าวทิ้งท้าย