| เผยแพร่ |
|---|
วันที่ 20 กรกฎาคม นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กแฟนเพจระบุว่า อันจิตใจโดยปกติของมนุษย์นั้น เมื่อได้เห็นหรือได้ยินว่าบุคคลอื่นมีทุกข์ ก็ย่อมมีจิตคิดช่วยให้พ้นทุกข์ดังที่เรียกว่าสงสารหรือกรุณาอันเป็นธรรมข้อหนึ่งในพรหมวิหาร 4 ผู้ดำรงในพรหมวิหารย่อมช่วยเหลือมนุษย์สัตว์ทั้งหลายด้วยเมตตากรุณา
“ดังนั้น การที่ประชาชนจะมาให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์ในการพิจารณาคดีนัดสุดท้าย ย่อมเป็นการแสดงออกถึงจิตใจอันประเสริฐที่มนุษย์พึงมีต่อกัน ยิ่งเมื่อพิจารณาว่านายกยิ่งลักษณ์ได้รับเคราะห์กรรมเพราะการดำเนินนโยบายสาธารณะเพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ยากจน การที่ประชาชนจะมาแสดงความเห็นอกเห็นใจด้วยการให้กำลังใจท่านย่อมเป็นความสูงส่งของจิตใจและเป็นเสรีภาพที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้” นายวัฒนาระบุ
นายวัฒนาระบุอีกว่า การแสดงออกซึ่งความเห็นอกเห็นใจด้วยการให้กำลังใจ เป็นการแสดงออกตามประเพณีหรือตามธรรมเนียมนิยม ดังนั้น การที่ นรม. และ รอง นรม. ซึ่งอยู่ใน คสช. ด้วยกันออกมาห้ามปรามประชาชนที่จะมาให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์ นอกจากจะขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงจิตใจที่คับแคบ อิจฉาริษยาและไม่เคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น แต่ถ้าดูการกระทำที่ผ่านมาของเผด็จการเหล่านี้ก็คงไม่แปลกใจ เพราะละเมิดสิทธิของความเป็นคนหรือสิทธิมนุษยชนตลอดมา ล่าสุดวานนี้ยังส่งทหารไปคุกคามนายสัณหณัฐ ศรัทธาพร หรือน้อง “แตม” เลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ที่ออกแถลงการณ์คัดค้านกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ท้วงติงไม่ให้นักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกหรือถ่ายภาพขณะครูกำลังสอน ซึ่งเป็นแนวความคิดที่สวนทางกับพัฒนาการของโลก ทั้งยังเป็นการแทรกแซงต่อระบบการศึกษาที่ตัวเองไม่มีความรู้ แต่พอเด็กออกมาคัดค้านอันเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นกลับส่งทหารไปคุกคาม
“นายและบ่าวเหมือนกันคือเก่งเฉพาะกับเด็กและสตรีที่ไม่มีอาวุธ จึงขอประณามพฤติกรรมดังกล่าว พร้อมกับขอประกาศว่าผมจะไปให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์ที่ศาล ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์ด้วยกัน สิ่งที่รัฐบาลควรทำคืออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ใช่มาแสดงการขัดขวาง ปัญญาคับแคบแล้วควรทำใจให้กว้างบ้าง” นายวัฒนาระบุในตอนท้าย
