“ไพบูลย์” แจง กมธ.แก้รธน.เดินหน้าทำเนื้อหา เผยนัดประชุมอีกครั้ง 10 ส.ค.

“ไพบูลย์” แจง กมธ.แก้รธน.เดินหน้าทำเนื้อหา เผยนัดประชุมอีกครั้ง 10 ส.ค. พิจารณาคำแปรญัตติ ชี้ใครเห็นแย้งให้ยื่นสภาชี้ขาด

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) แก้ไขเพิ่มเเติม มาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมกมธ.ฯ ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้พิจารณาเนื้อหาและกรอบการทำงาน โดยที่ประชุมได้พิจารณาการทำงานภายใต้ข้อบังคับรัฐสภา ข้อที่ 124 ที่กำหนดให้ กมธ.ฯพิจารณาเนื้อหาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่เสนอเป็นคำแปรญัตติ ซึ่งในวรรคท้าย มีข้อกำหนดในรายละเอียด คือ 1.การแปรญัตติเพิ่มมาตราใหม่ หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิม ที่ไม่ขัดหลักการ สามารถทำได้ และ 2.การแปรญัตติอาจจะขัดกับหลักการได้ เว้นแต่เป็นมาตราที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งตนได้ยกตัวอย่าง เช่น การกำหนดบทเฉพาะกาล เป็นต้น

นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กมธ.ฯ ซีกพรรคก้าวไกลมีความเห็นแย้ง ว่า ตามข้อบังคับข้อที่ 151 ไม่ได้ให้สิทธิกมธ.ฯ เป็นผู้วินิจฉัย หากกมธ.ฯ ที่ติดใจ สามารถยื่นต่อประธานรัฐสภาเป็นญัตติเพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาตัดสิน ทั้งนี้จะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งจากที่ประชุม ทั้งนี้ตนเข้าใจว่ามีกมธ.ฯ ที่ติดใจ แต่ในข้อบังคับรัฐสภากำหนดรายละเอียดไว้ หากยังติดใจสามารถสงวนความเห็นหรือยื่นเรื่องให้รัฐสภาพิจารณาก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาวาระสองได้ โดยการพิจารณาส่วนของคำแปรญัตตินั้น กมธ.ฯ ได้นัดประชุมวันที่ 10 สิงหาคม ขณะนี้ให้ฝ่ายเลขานุการไปพิจารณาสรุปประเด็น แทนการตั้งคณะทำงาน ตามที่มีคำทักท้วงว่าไม่จำเป็น

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับคำแปรญัตติที่เสนอมานั้น แบ่งได้เป็น คำแปรญัตติที่เสนอแก้ไข 1-2 มาตรา มีทั้งสิ้น 14 ฉบับ เสนอแก้ 3-5 มาตรา มี 4 ฉบับ และเสนอแก้ไข 6-9 มาตรา มีทั้งสิ้น 30 ฉบับ ดังนั้นในการประชุมนัดหน้าจะเดินหน้าพิจารณาตามข้อบังคับข้อ 124 อย่างไรก็ตามในชั้นพิจารณาไม่ได้ตัดสิทธิ์ผู้ที่เป็น กมธ.ฯ ที่จะแสดงความเห็นต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภารับหลักการมา