‘แสนสิริ’ อัดงบ 40 ล้าน ปูพรมฉีดชิโนฟาร์ม 37,000 โดส พนักงาน-ครอบครัว-สังคม

แสนสิริอัดงบ 40 ล้าน ฉีดชิโนฟาร์ม 37,000 โดส พนักงาน-ครอบครัว-สังคม วางเป้าทุกคนต้องได้วัคซีน 100% ต้นก.ค. พร้อมจัดสรร 50% ของวัคซีนให้คู่ค้า พันธมิตร ชุมชน ผู้ด้อยโอกาส

วันที่ 25 มิถุนายน 2564 นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอ านวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) “บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่พิจารณาเห็นชอบจัดสรรวัคซีนชิโนฟาร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Vaccine) ให้แก่บริษัทฯ จำนวน 37,000 โดส แก่แสนสิริ ซึ่งการขอจัดสรรวัคซีนในครั้งนี้เนื่องจากแสนสิริ
เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนทั่วถึงที่สุดเร็วที่สุด อีกทั้งวัคซีนต้องเข้าถึงได้สำหรับ คนทุกกลุ่มในสังคมอย่างเท่าเทียม ไม่เว้นแม้แต่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาส

โดยแสนสิริได้วางกลยุทธ์การจัดสรรวัคซีน “แสนสิริและสังคม…คนละครึ่ง” เพื่อดูแลพนักงานแสนสิริทุกคนและครอบครัว ตลอดจนคืนประโยชน์แก่สังคมอย่างดีที่สุดตามกำลังเต็มที่ของแสนสิริเท่าที่จะทำได้ ด้วยการจัดสรรวัคซีน 37,000 โดส ให้แก่พนักงานแสนสิริและครอบครัวจำนวน 18,000 โดส หรือสำหรับ 9,000 คน คิดเป็น 50% ของปริมาณวัคซีนที่ได้จัดสรรทั้งหมด และอีกกว่า 50% หรือ 19,000 โดส ให้แก่คู่ค้า พันธมิตร ชุมชนรอบข้าง และผู้ด้อยโอกาส จำนวนรวมถึง 9,500 คน ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำ 10% ในการบริจาควัคซีนเพื่อสังคมที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ระบุไว้ เพื่อทำประโยชน์สู่สังคมและประเทศไทยจะได้เดินหน้าพร้อมรับการเปิดประเทศในไตรมาส4 อย่างมีประสิทธิภาพ

“พนักงานเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กร เมื่อทุกคนเต็มที่ในทำงานและดูแลลูกค้ากว่า 100,000 คนอย่างดีที่สุด องค์กรก็พร้อมจะทำเต็มที่ที่จะดูแลให้พนักงานทุกคนมีความอุ่นใจปลอดภัยในการทำงานและใช้ชีวิต ซึ่งเรายังดูแลเพิ่มเติมต่อไปยังครอบครัวพนักงานและผู้อยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับพนักงานอีกด้วย จะได้ช่วยคลายความกังวลใจของพนักงานในการจัดหาวัคซีนแก่ครอบครัว ซึ่งเมื่อพนักงานแสนสิริทุกคนในทุกโครงการ อาทิ พนักงานขาย แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ ได้รับการฉีดวัคซีน 100% ก็ถือเป็นการยกระดับมาตรการความปลอดภัยอุ่นใจในการ อยู่อาศัยในโครงการแสนสิริทุกโครงการได้อย่างดี” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น วัคซีนชิโนฟารม์ ที่จะจัดสรรจำนวน 19,000 โดส ให้แก่สังคมด้วยการฉีดให้แก่คู่ค้า พันธมิตร ชุมชน และ ผู้ด้อยโอกาสนั้น แสนสิริยังจะจัดสรรวัคซีนส่วนหนึ่งให้แก่ชุมชนรอบข้างสิริแคมปัส ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของแสนสิริที่ตั้งอยู่ที่ T77 สุขุมวิท77 อาทิ วินมอเตอร์ไซค์ พนักงานในฮาบิโตะ มอลล์ แม่ค้าแผงลอย ผู้ยากไร้ในชุมชน ฯลฯ รวมกว่า
2,000 ชีวิตด้วย

เพราะเราเล็งเห็นแล้วว่าคนกลุ่มนี้มีความลำบากในการถึงวัคซีน แสนสิริมาตั้งสำนักงานที่นี่ เราก็อยากให้ผู้ยากไร้และด้อยโอกาสที่ชุมชนนี้ได้รับโอกาสด้วย ไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ยังเป็นการช่วยให้ T77 เป็นคอมมูนิตี้ที่มีคนฉีดวัคซีนมากที่สุด และมีความปลอดภัยสูงสุดจากการระบาดของโควิด-19 แห่งหนึ่งของประเทศ

ทั้งนี้จะมีการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มวันแรกในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ณ โรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ (BDMS) จะฉีดต่อเนื่องวันละ 1,500-2,500 คน เพื่อให้ผู้เข้ารับ การฉีดวัคซีนทั้งหมดจำ นวน 18,500 คนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกภายในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2564 และฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 2564 โดยแสนสิริจะรับผิดชอบค่าจัดซื้อวัคซีนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นรวม 40 ล้านทั้งหมด

การจัดสรรวัคซีนชิโนฟาร์มจำนวน 37,000 โดส ด้วยกลยุทธ์ “แสนสิริและสังคม…คนละครึ่ง” นี้อยู่ภายใต้มาตรการ ‘Sansiri Care…เพราะเราห่วงใย’ ที่แสนสิริมุ่งมั่นสร้างความอุ่นใจและปลอดภัยในวิกฤติการระบาดโควิด-19 โดยได้ทำการช่วยเหลือ 4 เสาสังคมอย่างต่อเนื่องเสมอมา ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน

อาทิ การยกระดับมาตรการความปลอดภัยในโครงการ, การช่วยเหลือ SMEs ที่เป็นลูกบ้านแสนสิริ, การจัดตั้ง Sansiri Care Relief Fund กองทุน 5 ล้านบาท จากการระดมเงินส่วนตัวของคณะผู้บริหารระดับสูง เพื่อดูแลพนักงานแสนสิริและบริษัทในเครือ, การซื้อประกันภัยโควิด-19 แจกพนักงานทุกคน รวมถึงการบริจาคและสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขรวมมูลค่ากว่า 20 ล้าน เช่น การบริจาคเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์การมอบรถตรวจโควิด-19 การสร้างห้องอาบน้าให้แก่ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม การบริจาคเงิน 2,000,000 บาท แก่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นต้น

“วัคซีนเปรียบเสมือนเกราะที่ทำให้สังคมเดินหน้าต่อได้ วันนี้เราพอมีกำลังที่จะช่วยเหลือพนักงาน คู่ค้าและพันธมิตร รวมถึงสังคมให้เข้าถึงวัคซีนได้ง่ายขึ้น ก็ขอทำเต็มที่เพื่อเป็นฟันเฟืองหนึ่งของเครื่องจักรประเทศไทยในการลดความเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 และเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศในไตรมาส 4 ปีนี้” นายเศรษฐา กล่าว