ประธานชวน แจงข่าวลือยุบสภา ชี้ที่วุ่นวาย เพราะนักการเมืองที่เลือกไป

“ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา ชี้ สภาวุ่นวาย เกิดจากนักการเมือง ที่เลือกเข้าไป เชื่อประคับประคองได้ ส่วนยุบสภาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนักการเมือง

วันนี้ (5 มิ.ย.2564) เวลา 09.30 น. ที่ศาลากลาง จังหวัดพิจิตร นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และ นาย นราพัฒน์ แก้วทองรองหัวหน้าพรรค ปชป. เพื่อมอบหน้ากากอนามัยป้องกันการเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระรอกใหม่ ซึ่งนายชวน หลีกภัย มีความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทั้ง เด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม จำนวน 10,000 ชิ้น โดยมีนายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าฯพิจิตร เป็นผู้รับมอบ

จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาจังหวัดพิจิตรเพื่อมอบหน้ากากอานามัย จำนวน 1 หมื่นชิ้น ซึ่งจังหวัดพิจิตร เป็นจังหวัดที่ 46 เพื่อให้กลับกลุ่มเปราะบาง อีก ทั้งเดินทางมา เป็นกำลังใจให้กับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งตรงนี้อยากแนะนำ ให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้ามากกว่าเนื่องจาก เป็นการประหยัดเงิน ในช่วงของการแพร่ระบาดจากเชื้อโควิด อยากฝากบอกประชาชนว่าถึงแม้ว่าฉีดวัคซีนแล้วก็ตามอย่าประมาท อย่าไปมั่วสุม เข้าบ่อน เข้าสถานบันเทิง

นายชวนกล่าวอีกว่า ในการประชุมสภาที่ผ่านมา เสร็จสิ้นไปแล้วในวาระที่ 1 ในเรื่องของการประชุมสภาอภิปรายงบรายจ่ายประจำปี 65 ซึ่งในการประชุมสภา เน้นย้ำในเรื่องของการป้องกันการเฝ้าระวัง การติดเชื้อโควิด โดยอย่าไม่ให้คนเข้ามามาก แต่ละวันจะประชุมกี่กระทรวงก็มา ไม่ต้องมาพร้อมกัน จะได้ไม่ต้องมาแออัดลดจำนวนคนให้น้อยลง

นายชวน กล่าวว่า ในส่วนที่เกิดความวุ่นวายในสภานั้น เกิดจากนักการเมืองที่ประชาชนเลือกเข้าไป นั่นแหละ เลือกคนวุ่นๆ เข้าไปก็วุ่นหมดแหละ แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องมีการถบเถียงกันสิทธิของแต่ละฝ่าย เพราะ เป็นระบบประชาธิปไตย แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านหรือรัฐบาลจะต้องระลึกถึงหน้าที่ของตัวเอง บางคนเขาก็เก่ง ก็เตรียมข้อมูลมาดี บางคนไม่มีข้อมูลก็พูดนอกประเด็นเอาประเด็น การอภิปรายไม่ไว้วางใจมาพูดซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณจนเกิดความวุ่นวาย ดังนั้นที่ มี ส.ส.บางคน อยากให้ยุบสภานั้น ไม่ใช่ผมแต่จะต้องเป็นอำนาจของฝ่ายสภา ถึงแม้ว่าจะมีการโต้เถียงกัน ผมเชื่อว่า เอาอยู่แล้ว

นายชวนกล่าวว่า ผมเองได้ทำโครงการบ้านเมืองสุจริต เชื่อว่าระบบระบบประชาธิปไตย สิทธิหน้าที่ต้องไปคู่กันงบประมาณรายจ่ายใช้จะต้องไม่รั่วไหล ไม่ใช่งบประมาณ 100 กิน 30 ทำแค่ 70 อย่างนั้น จะทำอะไร ก็ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งเบื้องหลังส่อทุจริต ถนนหนทางไม่คงทน แทนที่จะอยู่ได้นาน พังตามมา