รัฐประหารพม่า : อียูคว่ำบาตร อายัดทรัพย์สิน-ระงับวีซ่า 10 นายพล ‘เอ็นยูจี’ ค้าน ‘มิน อ่อง ลาย’ ร่วมประชุมอาเซียน

อาเซียนเดินหน้าซัมมิท ถกวิกฤตพม่า เอ็นยูจีค้าน ‘มิน อ่อง ลาย’ ร่วมประชุม อียู คว่ำบาตร 10 นายพลเอี่ยวรัฐประหาร สั่งอายัดทรัพย์สิน-ระงับวีซ่า

นายโรเมโอ จูเนียร์ อาบัด อาร์คา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ของสำนักเลขาธิการอาเซียน ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมสุดยอดของผู้นำอาเซียนจะมีขึ้นที่สำนักเลขาธิการอาเซียนในกรุงจาการ์ตา ในวันที่ 24 เมษายนนี้ ภายใต้มาตรการคุมเข้มด้านสาธารณสุขและการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบพิธีการทูตเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ดียังไม่ชัดเจนว่าจะมีผู้นำอาเซียนเดินทางไปร่วมประชุมด้วยตนเองกี่ประเทศ แต่ในส่วนของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ชัดเจนแล้วว่า เขาได้มอบหมายให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนเดินทางไปร่วมการประชุมดังกล่าว

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศบรูไน ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการจัดเตรียมการประชุมสุดยอดที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้เช่นกัน

ด้านกลุ่มรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ซึ่งประกาศตัวเป็นรัฐบาลเงาและผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของเมียนมา ออกมาคัดค้านความเป็นไปได้ของการเดินทางไปร่วมประชุมกับผู้นำอาเซียนของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำการยึดอำนาจเมียนมา

ขณะที่ อัลจาซีร่า รายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรผู้บัญชาการทหารเมียนมา 10 นาย และบริษัทยักษ์ใหญ่ของกองทัพ 2 บริษัท แสดงจุดยืนต่อต้านการรัฐประหารประเทศ และการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน

อียูแถลงการณ์ว่า ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้บัญชาการทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบทำลายระบอบประชาธิปไตยและกฏหมายของประเทศ รวมถึงการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ผู้บัญชาการทหารทั้งหมด 10 นายที่ทำการรัฐประหาร จะโดนอายัดสินทรัพย์ และถูกระงับวีซ่า

นอกจากนี้ อียูได้ออกมาตรการคว่ำบาตร 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของกองทัพเมียนมา ได้แก่ บริษัท “เมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิ้งส์ พับลิก คอมปานี ลิมิเตด” (MEHL) และบริษัท “เมียนมา อีโคโนมิก คอร์เปอเรชั่น ลิมิเตด” (MEC)

มาตรการคว่ำบาตรนี้ ไม่อนุญาตให้นักลงทุนหรือธนาคารสามารถทำธุรกิจกับทั้ง 2 บริษัทได้

โดยอียูระบุว่า กองทัพเมียนมาเป็นเจ้าของบริษัทดังกล่าว และมีรายได้หลักมาจากส่วนนี้

กลุ่มสิทธิมนุษยชน สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เมียนมา รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตตั้งแต่การรัฐประหารที่ผ่านมาอย่างน้อย 738 คน และมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 4,000 คน โดยยังมีประชาชนถึง 3,261 คนที่ยังคงถูกคุมตัว