วันที่ 19 มีนาคม 2564 บีบีซี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ เตรียมเข้ารับการฉีดวัคซีนของ บริษัทแอสตราเซเนกา ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและสังคม

ภายหลังเกิดกระแสหวาดผวาต่อความปลอดภัยของวัคซีนแอสตราเซเนกาอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่ทางการเดนมาร์ก รวมทั้งอีกหลายประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศระงับใช้วัคซีนดังกล่าวเนื่องจากพบผู้ฉีดวัคซีนจำนวนหนึ่งมีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แม้องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (อีเอ็มเอ) จะแถลงย้ำว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสมรณะ

นายกฯ จอห์นสันแถลงที่ทำเนียบหมายเลข 10 ถนนดาวนิง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มี.ค. ว่า วัคซีนแอสตราเซเนกามีความปลอดภัย “สิ่งที่ไม่ปลอดภัยจริงๆ แล้วคือการติดเชื้อโควิด นี่คือสาเหตุว่าทำไมจึงสำคัญมากที่เราทุกคนควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายกฯ อังกฤษกล่าว พร้อมย้ำว่าการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มจะเกิดขึ้นได้เมื่อประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน

ด้าน ศาสตราจารย์คริส วิตตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ เปิดเผยว่ามีรายงานว่ากลุ่มคนจำนวนน้อยไม่ได้เดินทางไปฉีดวัคซีนตามนัด คาดว่ามีความวิตกกังวลในกระแสข่าวเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนแอสตราเซเนกา แต่หวังว่าจะเปลี่ยนใจและเข้ารับการฉีดวัคซีนตามกำหนด เพราะโควิด-19 ยังเป็นโรคที่อันตรายมากๆ “ผู้คนล้มตาย ผู้คนมีลิ่มเลือดอุดตัน นี่คือความเสี่ยงของโควิด ผู้คนได้รับผลกระทบระยะยาวทั้งทางกายภาพและจิตใจ” ศ.วิตตีระบุ

ทั้งนี้ ทางการเยอรมนี อิตาลี และฝรั่งเศสประกาศเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาอีกครั้งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สเปน โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์จะหวนกลับมาฉีดวัคซีนในสัปดาห์หน้า