ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 1 มี.ค. เอเอฟพี รายงานสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศพม่าหรือเมียนมาว่า ขณะที่มวลชนจำนวนมากยังลุกฮือประท้วงทั่วประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ยี่สิบสี่ และมีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลซึ่งยังใช้ความรุนแรง ทั้งยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำแรงดันสูง
นายขิ่น หม่อง ซอว์ ทนายความ เปิดเผยว่านางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ผู้นำรัฐบาลพลเรือน ร่วมการไต่สวนมูลฟ้องในชั้นศาลผ่านวิดีโอคอล หลังทางการตั้งข้อหานำเข้าอุปกรณ์วิทยุสื่อสารผิดกฎหมายจำนวน 6 เครื่อง และละเมิดกฎหมายภัยพิบัติทางธรรมชาติจากกรณีไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงรณรงค์หาเสียง
ถือเป็นครั้งแรกที่นายขิ่นเห็นนางซู จี หลังหายหน้าไปจากสาธารณชนนับตั้งแต่ถูกกองทัพบุกจับเมื่อวันที่ 1 ก.พ. โดยนายขิ่นย้ำว่านางซู จี ยังดูแข็งแรงดี และตนกำลังเร่งยื่นเรื่องขอทำหน้าที่เป็นทนายความนางซู จี อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นางซู จี อาจถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 2 กระทง ได้แก่ ละเมิดกฎหมายสื่อสาร กับปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบ และศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 15 มี.ค.
สำหรับสถานการณ์ชุมนุมในพม่า แม้จะมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการใช้กำลังปราบปรามอย่างหนักจากตำรวจปราบจลาจลจนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย แต่วันนี้ยังคงมีการชุมนุมต่อโดยผู้ประท้วงตามหลายเมือง โดยก่อนหน้านี้ อี ทินซา หม่อง แกนนำผู้ประท้วงคนรุ่นใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า นับเป็นเวลา 1 เดือนแล้วตั้งแต่การรัฐประหาร เมื่อวานนี้พวกเขาปราบปรามด้วยการยิงใส่พวกเรา เราจะออกมาอีกวันนี้
การประท้วงเกิดขึ้นทั้งในย่างกุ้ง จนตำรวจได้ทำการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงแต่ก็ถูกผู้ชุมนุมสกัดและควบคุมควันแก๊สได้
หรือเดินขบวนประท้วงในเมืองคาเร โดยชาวเมืองชูภาพนางซูจี พร้อมตะโกนว่า “ประชาธิปไตย คือจุดหมายเรา จุดหมายเรา”
นอกจากนี้ ที่เมืองล่าเสี้ยวในรัฐชาน ได้มีการรวมตัวชุมนุมบนถนน และการเดินขบวนประท้วงในเมืองพุกาม