‘ตรุษจีน’ ใจสลาย 2 ปีติด เพราะโควิด ชาวจีนอดกลับบ้านฉลองเทศกาล

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานบรรยากาศต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ว่าตามปกติช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีนที่แผ่นดินใหญ่ จะมีชาวจีนหลายร้อยล้านคนที่เข้ามาหางานทำในเมือง เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมครอบครัว เพราะตรุษจีนเป็นเพียงโอกาสเดียวในหนึ่งปีที่จะได้กลับบ้านเจอหน้าสมาชิกแบบพร้อมหน้าพร้อมตา

แต่ปีนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่โรคระบาดโควิด-19 เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง ทั้งรถไฟ รถยนต์และเครื่องบิน รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นในช่วงเทศกาลหยุดยาวเพื่อลดความเสี่ยงที่โรคโควิดจะระบาด

ด้านคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีนออกมาตรการใหม่ให้ผู้ที่ต้องเดินทางกลับบ้านในชนบทต้องมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นลบก่อนเดินทาง 7 วัน และเมื่อถึงบ้านแล้ว ต้องกักตัวอีก 14 วันเพื่อสังเกตอาการ

นอกจากนี้ รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งยกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น เช่น ผู้ที่เดินทางกลับบ้านจะต้องกักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลอนุมัติให้กักตัวเท่านั้น แทนที่จะได้กักตัวอยู่กับบ้าน

มาตรการเข้มงวดต่างๆ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสื่อสังคมออนไลน์เพราะเท่ากับดับฝันคนที่อยากกลับบ้านไปเจอหน้าครอบครัว บางคนแย้งว่า วันหยุดมีแค่ 7 วัน แต่ให้คนเดินทางกักตัว 14 วัน สมองทำด้วยอะไร

ปีที่แล้ว สถานีรถไฟในกรุงปักกิ่งมีผู้โดยสารหนาตาก่อนช่วงวันตรุษจีนเพราะรัฐบาลยังไม่ประกาศว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ติดต่อกันได้จากคนสู่คน แม้ว่าพบการระบาดในเมืองอู่ฮั่นแล้วก็ตาม ทำให้เมืองอู่ฮั่นต้องล็อกดาวน์ ก่อนถึงวันตรุษจีน 2 วัน

ขณะที่ชาวจีนหลายล้านคนในตอนกลางของประเทศเดินทางกลับภูมินำเลาก่อนหน้าวันตรุษจีนเป็นสัปดาห์แล้วทำให้การระบาดของไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

หลังจากสิ้นสุดเทศกาลหยุดยาว หลายคนต้องติดอยู่ในบ้านเกิดเพราะรัฐบาลเพิ่งออกกฎใหม่ ไม่ให้เดินทางกลับไปเมืองที่ทำงานเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส

ปีนี้ ห้องโถงผู้โดยสารขาออกของสถานีรถไฟในกรุงปักกิ่งเงียบเหงาว่างเปล่าก่อนถึงวันตรุษจีนเพราะรัฐบาลขอให้ประชาชนอยู่ในเมืองที่ทำงานเพื่อหยุดการระบาด

ด้านสำนักบริหารการบินพลเรือนเปิดเผยว่าเพียงแต่วันแรกของช่วงวันหยุดยาว 40 วันในเทศกาลชุน อวิ้น หรือ ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 .สนามบินนานาชาติปักกิ่ง มีผู้โดยสารขาออกเดินทางลดลงร้อยละ 86 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หากเทียบจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินทั้งประเทศจะเห็นว่าลดลงร้อยละ 71 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ปีที่แล้ว สถานีรถไฟในกรุงปักกิ่งมีผู้โดยสารหนาตาก่อนช่วงวันตรุษจีนเพราะรัฐบาลยังไม่ประกาศว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ติดต่อกันได้จากคนสู่คน แม้ว่าพบการระบาดในเมืองอู่ฮั่นแล้วก็ตาม ทำให้เมืองอู่ฮั่นต้องล็อกดาวน์ ก่อนถึงวันตรุษจีน 2 วัน

ขณะที่ชาวจีนหลายล้านคนในตอนกลางของประเทศเดินทางกลับภูมินำเลาก่อนหน้าวันตรุษจีนเป็นสัปดาห์แล้วทำให้การระบาดของไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

หลังจากสิ้นสุดเทศกาลหยุดยาว หลายคนต้องติดอยู่ในบ้านเกิดเพราะรัฐบาลเพิ่งออกกฎใหม่ ไม่ให้เดินทางกลับไปเมืองที่ทำงานเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส

ปีนี้ ห้องโถงผู้โดยสารขาออกของสถานีรถไฟในกรุงปักกิ่งเงียบเหงาว่างเปล่าก่อนถึงวันตรุษจีนเพราะรัฐบาลขอให้ประชาชนอยู่ในเมืองที่ทำงานเพื่อหยุดการระบาด

ด้านสำนักบริหารการบินพลเรือนเปิดเผยว่าเพียงแต่วันแรกของช่วงวันหยุดยาว 40 วันในเทศกาลชุน อวิ้น หรือ ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 .สนามบินนานาชาติปักกิ่ง มีผู้โดยสารขาออกเดินทางลดลงร้อยละ 86 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หากเทียบจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินทั้งประเทศจะเห็นว่าลดลงร้อยละ 71 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

แต่โพสต์ดังกล่าวถูกกระแสตีกลับอย่างรุนแรง บางคนเขียนโพสต์กลับว่า “ไม่ต้องขอบอกขอบใจพวกเราหรอก เราต้องการกลับบ้าน นี่เป็นเรื่องจริง” ความเห็นนี้ มีคนกด “ถูกใจ” กว่า 4,400 ครั้งในเวลาน้อยกว่า 3 ชั่วโมง

ส่วนอีกคนที่มีคนชื่นชอบความเห็นมาก เขียนว่า “น่าอายที่รัฐบาลภาคภูมิใจกับเรื่องนี้

เช้าวันถัดมา ความเห็นในเชิงลบถูกลบทิ้งออกไปหมดแล้ว

ด้านรัฐบาลกลางห้ามประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงสูงเดินทางโดยเด็ดขาด ส่วนคนที่อาศัยในพื้นที่ความเสี่ยงกลาง ให้เดินทางได้ แต่ต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระบาดท้องถิ่นและมีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นลบก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ขณะที่ คนที่อาศัยในพื้นที่ความเสี่ยงต่ำให้เดินทางได้ แต่ทางการขอร้องให้อยู่พื้นที่ของตนเอง

มาตรการดังกล่าวปลุกกระแสความไม่พอใจอย่างยิ่งเพราะเข้มงวดเกินไป

ตัน ตี้ นามแฝงของนักศึกษาวัย 21 ปีกลับจากเรียนมหาวิทยาลัยในฮ่องกงและต้องกักตัว 21 วันในโรงแรมที่จูไห่และกักตัวอีก 1 สัปดาห์ที่บ้านในเมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง

ชายหนุ่มกล่าวว่าตนเองโชคดีกว่าผู้อพยพคนอื่นๆ เกือบ 300 ล้านคนเพราะมีเวลาและมีเงินในช่วงกักตัวและจ่ายเงินค่าตรวจคัดกรอง พร้อมกับเห็นว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นโอกาสเดียวที่ผู้คนส่วนใหญ่ได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว

เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ก.พ. กระทรวงกิจการพลเรือนออกแนวทางแนะนำให้เด็กๆ 7 ล้านคนที่ไม่ได้เจอหน้าผู้ปกครองในช่วงตรุษจีน คุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองทางโทรศัพท์มือถือ หรือคุยกันแบบเห็นหน้าผ่านวิดีโอคอลแทน

นอกจากรัฐออกนโยบายขอให้ประชนชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติแล้ว ทางการท้องถิ่นและบริษัทเอกชนยังออกมาตรการจูงใจอื่นๆ ให้อยู่บ้านอีกด้วย เช่น เมืองหางโจวเสนอมอบเงินให้ 1,000 หยวนหรือประมาณ 4,700 บาทให้แก่แรงงานอพยพที่สมัครใจไม่เดินทางกลับบ้าน

ส่วนเมืองอื่นๆ เสนอให้คูปองช้อปปิ้ง ลดค่าเช่าอาคารของรัฐและได้สิทธิฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อนใคร

เทียน ชีเหมิง เจ้าของบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมเมืองเทียนจิน กล่าวว่าบริษัทของตนจ่ายเงิน 300 หยวนหรือประมาณ 1,410 บาทให้กับพนักงานที่ไม่ได้เป็นคนท้องถิ่นและเลือกอยู่บ้านในเมืองเทียนจินช่วงวันหยุดยาว

“ผมเองก็อยากกลับบ้าน แต่สุดท้ายตัดสินใจไม่ไปเพื่อเป็นตัวอย่างกับคนอื่นๆ เพราะผมเคารพและเข้าใจกฎระเบียบการเดินทางเพราะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนให้ระวังอันตรายจากการเดินทาง จึงควรปฏิบัติตามและเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆ คน” นายเทียนกล่าว