เลือกตั้ง กทม. : ‘ชูวิทย์’ วิเคราะห์สนามเมืองกรุง ชัชชาติคะแนนตก ธนาธรทุ่มสู้ประยุทธ์ สุดท้ายตาแป๊ะคว้าไป

วันที่ 18 มกราคม 2564 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง อดีตส.ส.และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความ แสดงความเห็นเกียวกับศึกท้าชิงเลือกตั้ง กทม. ระบุว่า ตาอินกับตานา ผมลงการเมืองครั้งแรกในสนามผู้ว่าฯ กทม. เมื่อ 16 ปีก่อน หลายคนดูถูกว่าเป็นแค่ “ไม้ประดับ” สีสันการเมือง แต่ผลการเลือกตั้งได้ 330,000 กว่าคะแนนจากคนกรุงเทพฯ มาเป็นอันดับ 3 การจะชนะ ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ต้องมีคะแนน 2 ส่วน คือ คะแนนจัดตั้ง และคะแนนนิยมส่วนตัว กทม. มี 50 เขต หากได้คะแนนจัดตั้งสักเขตละ 10,000 รวม 500,000 และคะแนนนิยมส่วนตัว หรือ popular vote อีก 500,000 คงได้แน่ ผมรู้ตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้ ขอแค่เรียกกระแสให้คนรู้จัก แต่สิ่งหนึ่งที่มองออก คือ คนกรุงเทพฯ นั้น เปลี่ยนใจง่าย

ในใจจะเลือกคนนั้นคนนี้ แต่พออาทิตย์สุดท้ายก่อนเลือกตั้งเจอกระแสโหม เปลี่ยนใจ คะแนนพลิกได้ทันที เพราะคนกรุงเทพฯ พื้นฐานไม่ได้พึ่งพานักการเมือง อยู่ได้ด้วยตัวเอง ทำงาน กลับบ้าน เลี้ยงหมา สวดมนต์ เข้านอน พรรคประชาธิปัตย์ เล่นการเมืองใช้คำพูดเชือดเฉือนเอาใกล้วันเลือกตั้ง เช่น ไม่เลือกเรา เขามาแน่ สามารถคว่ำผู้สมัครพรรคเพื่อไทยที่ทำโพลกี่ครั้งก็ชนะ เพราะช่วงนั้นพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์สะบัดลิ้นสู้ว่า

รัฐบาลก็เพื่อไทย หากกรุงเทพฯ เพื่อไทยได้ไปอีก ก็จบกัน กินรวบประเทศไทย เท่านั้นเอง คนกรุงเทพฯ เลยพลิกมาเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์แทน คิดว่าจะเอาไปคานอำนาจไม่ให้พรรคเพื่อไทยได้หมดทั้งการเมืองใหญ่ และท้องถิ่น ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย แต่.. ไม่มีความยุติธรรมทางการเมือง”

อนาคตอันใกล้นี้ จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้ง หลังห่างเหินมานาน ผู้ว่าคนปัจจุบัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รับส้มหล่นมาจากรัฐบาล คสช. นั่งแทน ผู้ว่าฯ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ที่โดน ม.44 เป่ากระเด็น เพราะตอนเป็นผู้ว่าฯ ผลงานชักเละ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. หมาดๆ คงชิมลางการเมืองในสนามผู้ว่าฯ กทม. และหากผมเดาไม่ผิด คงสมัครในนามอิสระ แต่มีคะแนนจากหลายพรรคสนับสนุน เพราะลีลาดี น้ำเลี้ยงมาก พรรคพวกหลายวงการ

ส่วนคุณชัชชาติที่เดินสายเปิดหน้าเรียกคะแนนล่วงหน้ามานานจากคนรุ่นใหม่ หลายฝ่ายคาดว่าจะได้คะแนนมาก แต่ผมวิเคราะห์ว่า คะแนนคงแตก เพราะพรรคก้าวไกล (อนาคตใหม่) เข้ามาเป็นตัวแย่งชิง เหตุมาจากพลาดสนามท้องถิ่นต่างจังหวัด ครั้งนี้จึงหมายมั่นปั้นมืออย่างหนัก ธนาธรคงทุ่มสุดตัวเพื่อพิสูจน์ว่าคนเบื่อรัฐบาลบิ๊กตู่ จะได้เขย่าขวัญในเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าแต่กลัวจะไปเข้าทำนอง ตาอินกับตานา สองตาแย่งปลากัน เลยเสร็จตาแป๊ะ คว้าพุงปลาเข้าบ้านไปกิน