ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2560 พร้อมมอบนโยบายเนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 5 มิ.ย.ของทุกปี พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสพบปะประชาชนทั้งประเทศ ตนเอาหัวใจมาพบกัน ซึ่งวันนี้เราต้องขับเคลื่อนให้เร็ว หากพูดช้าแล้วทำเร็วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพูดเร็วแล้วทำเร็วก็จะยิ่งแก้ปัญหาได้รวดเร็วด้วย แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน แม้รัฐบาลมีอำนาจมากมายแต่ทำฝ่ายเดียวคงไม่ได้ ทั้งนี้ขอขอบคุณชาวนาที่ถือเป็นผู้เสียสละทั้งแรงกายแรงใจ และหยาดเหงื่อเพื่อผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศ ซึ่งบรรพบุรุษตนก็เป็นทำไร่ทำนาและทำสวน จึงรู้ดีว่ายากลำบากต้องใช้ความอุตสาหะเพียงใด แม้วันนี้จะมีวิกฤต โอกาส และความเสี่ยงมากมาย แต่เราก็หยุดทำการเกษตรไม่ได้ เพราะเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่ต้องนำคนรุ่นใหม่มาทำการเกษตรมากขึ้น เพราะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ภาคการเกษตรอายุมากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องข้าวต้องแก้ปัญหาครบวงจร ไม่ใช่แก้แค่เรื่องราคาข้าวอย่างเดียว แต่ต้องดูตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง แม้เราเป็นประเทศรายได้ปานกลาง แต่ยังมีคนรายได้ต่ำอยู่ ขออย่าเสียใจหรือน้อยใจที่ถูกดูถูกดูแคลน เราต้องช่วยกันดึงกันขึ้นมา รวมกลุ่มสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่รวมกลุ่มมาต่อสู้กับรัฐบาล ถ้าต่างฝ่ายต่างเรียกร้องไปไม่ได้ ทั้งนี้ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ แต่วันนี้กระดูกสันหลังต้องไม่งองุ้ม แต่ต้องลืมตาอ้าปากได้ โดยทุกรัฐบาลพูดแบบตนพูดแต่ไม่ทำ แต่รัฐบาลเอาสิ่งที่พูดมาทำทั้งระบบถือเป็นการปฏิรูป อาจไม่ได้ผลเร็วมาก แต่ทุกอย่างดีขึ้นเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งความยั่งยืนคือ ความมีเสถียรภาพ สงบเรียบร้อย แม้ตนเป็นรัฐบาลที่มาแบบนี้ แต่ถ้าสงบเรียบร้อยดีก็เดินหน้าได้หมด ส่วนประชาธิปไตยยังไงก็ต้องเป็น เป็นไปตามโรดแมป แต่ระหว่างนี้ต้องช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อย ไม่ประท้วง โดยรัฐบาลทำทุกอย่าง แต่ที่มองว่าไม่มีผลงานปรากฎ เพราะทุกคนมองแต่ตนเอง ถ้าวันนี้ไม่สงบเรียบร้อย ต่างชาติก็ไม่เชื่อมั่น ไม่ซื้อข้าว ไม่มาลงทุน ถือเป็นอันตรายมากที่สุด ผลิตให้ตายก็ไม่มีคนซื้อ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันต้องปรับการเกษตรกรแบบดั้งเดิมสู่เกษตรสมัยใหม่เป็นไทยแลนด์ 4.0 ที่นำประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ยืนยันตนไม่เคยดูถูกชาวนาและคนยากจน ซึ่งความเท่าเท่าอย่างเดียวคือ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายที่เป็นธรรม จึงอย่าให้ใครมาบิดเบือน ถ้าทำแบบเดิมก็จะมีหนี้สินแบบเดิม ทำแบบเดิมที่ว่าดีมีปัญหาหรือไม่ ทุกคนทราบดีตนไม่อยากพูด อย่างไรก็ตามส่วนตัวไว้ใจชาวนามาโดยตลอด เพราะรัฐบาลอยู่ด้วยประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลรอดอยู่ฝ่ายเดียวแต่ต้องไปด้วยกัน ทั้งนี้ได้จัดสรรงบประมาณลงไปทุกภูมิภาคให้เกิดความทั่วถึง และรัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อให้เป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล แม้ที่ผ่านมามีการหากินทางการเมือง แต่ตนไม่มีการเมืองทั้งสิ้นแต่ที่ทำให้เพราะเห็นใจชาวนาเท่านั้น แต่อย่าคิดเพียงให้รัฐบาลอุดหนุนอย่างเดียว เพราะจะเสียหายและล้มทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าทั้งนี้มีกระแสข่าวว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ไปหักเงินชาวนา ที่รัฐบาลให้เงินกู้ไป จังหวัดใดมีเรื่องนี้ จ.แพร่หรือจ.พิจิตรมีหรือไม่ ยืนยันไม่มีนโยบายไปมีหักหนี้เก่าชาวนา ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ สร้างความไม่เชื่อถือซึ่งกันและกัน ดังนั้นจึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปตรวจสอบให้ชัดเจนและไม่ให้คลุมเครือ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้ด้วยว่า “รัฐมนตรีต้องไปขายของ เดินสายตลอด แล้วยังมีบอกว่ารมว.เกษตรฯ ไม่มีผลงาน มีไหม ต่างจากของเดิมไหม ต้องปรับรมว.เกษตรฯ อีกไหม ให้เป็นรัฐมนตรีหรือนายกฯ ยังไม่มีใครอยากเป็นเลย เว้นแต่บางพวกที่อยากเป็นอยู่นั่น ก็เป็นสิ ถ้าเลือกเขามาก็ได้เป็นไม่เลือกเขามาก็ไม่ได้เป็น ถึงเวลาก็ไปเลือกกันเอง ผมก็ต้องไปเลือกอยู่ดี แต่ยังไม่รู้ว่าใคร ดูตัวอยู่”