เผยแพร่ |
---|
วันที่ 24 ธันวาคม 2563 สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงพบการติดเชื้อในหลายส่วนทั่วโลก รวมถึงไทยที่กลับมาระบาดอีกครั้งการกรณีแพร่เชื้อจำนวนมากในจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนสถานการณ์หลายประเทศนอกจากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ราว 78.6 ล้านคน อีกหนึ่งความกังวลที่กำลังปรากฎขึ้นคือ เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ โดย เอเชียนิวส์เน็ตเวิร์ก และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียว่า ตันสรี นายแพทย์นูร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย แถลงพบผู้ป่วยติดไวรัสโควิดกลายพันธุ์ใน รัฐซาบาห์
โดยเชื้อโควิดชนิดใหม่ที่พบถูกเรียกว่า “A701B” มีลักษณะคล้ายคลึงกับโควิดกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ เบื้องต้นกำลังเร่งตรวจสอบเชื้อและยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าโควิดกลายพันธุ์ที่พบในประเทศชนิดนี้มีอัตราการแพร่ระบาดเร็วกว่าโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือไม่
“ไวรัสโควิด-19 มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นอยู่เสมอและเราเฝ้าติดตาม รวมถึงวิจัยความเกี่ยวข้องของสายพันธุ์ต่างๆ ที่พบในประชาชน เราตรวจพบการกลายพันธุ์นี้ใน 60 ตัวอย่างที่นำมาจากผู้ป่วยโรคโควิด-19 คลัสเตอร์เบนเต็ง ลาฮัด ดาตู ในรัฐซาบาห์ เรายังไม่แน่ใจว่าสายพันธุ์นี้มีระดับการติดเชื้อสูงหรือมีความรุนแรงกว่าปกติหรือไม่” นพ.นูร์ชี้แจง
พร้อมระบุว่ามาเลเซียเคยพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์มาแล้วก่อนหน้านี้คือ D614G ในรัฐเกดะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีอัตราการแพร่ระบาดมากถึง 10 เท่าของโควิดสายพันธุ์หลัก และทำให้รัฐเกดะห์มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียจะไม่หวนบังคับใช้มาตรการแยกกักตัวจาก 10 วันเพิ่มเป็น 14 วัน ท่ามกลางกระแสหวาดผวา ทั้งโควิดกลายพันธุ์ในประเทศ และเชื้อกลายพันธุ์ที่กำลังระบาดหนักในสหราชอาณาจักร
“หากเราดูข้อมูลมาตรการกักตัวของเรา จะเห็นว่าไม่มีความแตกต่างมากนักระหว่าง 10-14 วันของการแยกเดี่ยวกักตัว ส่วนใหญ่แล้วคนๆ หนึ่งจะเริ่มแสดงอาการภายในสัปดาห์แรก หากระยะกักตัวแค่ 7 วันอาจมีความเสี่ยงสูง แต่จากประสบการณ์ของเรา 10 วันหรือ 14 วันนั้นแทบไม่ต่างกัน” นพ.นูร์กล่าวย้ำ
และว่าในส่วนของผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แม้ผลตรวจจะออกมาเป็นลบแต่จำเป็นต้องกักตัวเอง ส่วนบุคคลที่มีผลตรวจเป็นบวกจะถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อแยกเดี่ยวกักตัวและทำการรักษาต่อไป
ขณะที่ เว็บไซต์บีบีซีไทย รายงานสถานการณ์ในอังกฤษว่าเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดย นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักร กล่าวว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 คน ที่ป่วยจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักร โดยทั้งสองคนเป็นผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้
“เรารู้สึกขอบคุณรัฐบาลแอฟริกาใต้เป็นอย่างยิ่งในเรื่องข้อมูลทางวิทยาศาสตร์” เขากล่าว
“ไม่แน่ว่าไวรัสนี้อาจจะแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น และดูเหมือนว่าได้กลายพันธุ์ไปมากกว่าไวรัสชนิดใหม่”
ทั้งนี้ รมว.แฮนค็อก ยังเตรียมประกาศขยายพื้นที่คุมเข้มเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ด้วย โดยนับตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 26 ธ.ค. นี้ มณฑลซัสเซกซ์, อ็อกฟอร์ดเชียร์, ซัฟฟอล์ก, นอร์ฟอล์ก และเคมบริดจ์เชียร์ พื้นที่ในมณฑลเอสเซกซ์ที่ยังไม่ได้อยู่ในพื้นที่ควบคุมการระบาดในขั้นที่ 4 (เทียร์ 4), เมืองเวฟเวอร์ลีย์ในมณฑลเซอร์รีย์ และมณฑลแฮมป์เชียร์รวมถึงเมืองพอร์ตสมัธ และเซาแทมป์ตัน แต่ยกเว้นเมืองนิวฟอเรสต์ จะถูกยกระดับการควบคุมเป็นเทียร์ 4
ปัจจุบัน อังกฤษแบ่งระดับความเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 เป็น 4 ระดับ หรือเทียร์ โดยเทียร์ 4 มีความเข้มงวดมากที่สุด