หมอเอก จี้สอบสลายชุมนุมผิดหลักสากล ชี้น้ำสีฟ้ามีโอกาสทำปอดติดเชื้อ

วันที่ 26 ต.ค. นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล อภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภา ถึงความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล ที่เข้าดำเนินการสลายการชุมนุมของคณะราษฎร เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา

นพ.เอกภพ กล่าวว่า การสลายการชุมนุม โดยใช้รถฉีดน้ำสลายฝูงชนในวันดังกล่าวถือเป็นความผิดพลาด ไม่เป็นไปตามหลักสากล เพราะตามหลักสากลแล้ว ห้ามฉีดน้ำในระยะใกล้ การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ชุมนุมบางรายได้รับบาดเจ็บมีเลือดออกทางเดินอาหาร

อีกทั้งน้ำที่ใช้มีการผสมสารเคมีบางอย่าง และมีความเป็นไปได้ที่ผสมแก๊สน้ำตา ซึ่งตามหลักสากล ต้องมีการประกาศรายละเอียดของสารเคมีที่ใช้ แต่รัฐบาลกลับไม่แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบ ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่เป็นเด็ก นักเรียน นักศึกษา ได้รับบาดแสบผิวหนัง บางคนคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเป็นอาการตรงกับการใช้แก๊สน้ำตา

หมอเอก กล่าวต่อว่า ซึ่งหากน้ำดังกล่าวมีส่วนประกอบแก๊สน้ำตาจริง ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก เพราะตามหลักสากลในสนธิสัญญาเจนีวานั้น ห้ามใช้ในสงคราม เพราะผลการทดลองกับทหารมีโอกาสทำให้ปอดติดเชื้อ และทางเดินหายใจได้

นอกจากนี้ยังมีการใช้ลวดหนามหีบเพลง ที่ไม่เป็นไปตามหลักสากลในการตั้งเครื่องกีดขวาง ที่จะต้องไม่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงเสนอให้สภาตั้งกรรมาธิการตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ด้วย การปฏิบัติการที่ขัดต่อหลักสากลครั้งนี้ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ชาติคือประชาชน คำว่ารักชาติต้องมีค่ามากกว่าตำแหน่ง แต่ถ้าทำแบบนี้คือไม่รักประชาชน ตนขอให้นายกรัฐมนตรี ลาออก