เป็นปรากฎการณ์! หลังสลายชุมนุม แฟลชม็อบผลิบานทั่วประเทศ

วันที่ 17 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทั่วประเทศออกมารวมตัวกัน เพื่อชุมนุมขับไล่เผด็จการ โดยที่ จ.พะเยา นักศึกษามาหาวิทยาลัยพะเยา ร่วมชุมนุมบริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา โดยมวลชนกลุ่มนักเรียนนักศึกษาได้ร่วมกันสวมชุดดำ เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการดำเนินการสลายการชุมนุมวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนักศึกษาร่วม 2,000 คนเข้าร่วมกิจกรรม

ส่วนที่ จ.ร้อยเอ็ด สหภาพร้อยเอ็ดปลดแอก ซึ่งประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด กว่า 500 คน รวมตัวกันที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด รุมประณาม ‘รัฐบาล’ ที่ใช้ความรุนแรง สั่งสลายการชุมนุมของนักศึกษา และขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันที่ จ.ปทุมธานี ที่ลานอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ออกมารวมตัวกันประมาณ 1,000 คน เพื่อร่วมประณามการกระทำรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใช้กระสุนยาง รถฉีดน้ำ และแก๊สน้ำตา สลายการชุมนุมของนักศึกษาประชาชนกับกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาชุมนุม และเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี โดยแกนนำได้นำป้ายผ้ามาให้นักศึกษาเขียนให้กำลังเพื่อนๆ ที่ถูกจับกุมตัวไป และเขียนข้อความขับไล่นายกรัฐมนตรี โดยมีกลุ่มแกนนำขึ้นมาปราศรัยกันเป็นระยะ สลับกับอ่านบทกวีและการแสดง Performance Art เล่าการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน โดยตัวแสดงที่เป็นเจ้าหน้าที่นำน้ำมาเทราดศรีษะนักศึกษาหญิงแต่งตัวเป็นเด็กนักเรียนหญิง พร้อมทั้งบอกว่าน้องครับพี่ขอโทษนายสั่งพี่มา และกลุ่มของนักศึกษาที่มาร่วมฟังปราศรัยต่างพากันโห่ไล่ เหมือนกับการทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำต่อกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในกรุงเทพมหานคร

พร้อมกันนี้กลุ่มของนักศึกษาก็ร่วมกันทำแฟลสม๊อบกันเป็นระยะโดยเฉพาะการตามหาคนหายอย่างผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ตลอดการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลับวางตัวเฉยไม่ออกมาปกป้องเสรีภาพของนักศึกษา

ที่ จ.เลย มีกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนกว่า 1,000 คน เดินเข้าบริเวณวงเวียนน้ำพุ ก่อนเริ่มได้ร้องเพลงเคารพธงชาติ และบริเวณทางเท้ารอบวงเวียน ในเวลา 18.00 น.หลังจากได้ร่วมกันร้องเพลงชาติจบลง ได้ชู 3 นิ้วพร้อมร่วมกันตะโกน “ประยุทธ์ออกไป ปล่อยเพื่อนเรา นี่คือภาษีของกู” โดยการชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นโดยสงบ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนสลายตัว

ที่ จ.ขอนแก่น นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น นักเรียน ประชาชน ยังคงปักหลักชุมนุมภายในศูนย์อาหารและบริการ 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำทั้งหมดโดยเร็ว พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งมองว่ารัฐบาลบริหารประเทศได้ล้มเหลว และไม่เป็นประชาธิปไตย มีการคุกคามประชาชนที่แสดงออกทางการเมืองตามสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมทั้งสลับกับการเล่นดนตรีเพื่อให้ผู้ชุมนุมผ่อนคลายโดยการร่วมกันเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือประกอบจังหวะเพลงสลับกับการชู 3 นิ้วเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ที่ .จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำป่าสัก ใต้สะพาน ปรีดีธำรง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มประชาชนจำนวนมาก มารวมกันปราศรัย โจมตีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการสลายการชุมนุมของนักเรียนนิสิตนักศึกษา ในพื้นที่กรุงเทพเมื่อช่วงคำวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือแสดงพลังจุดไฟให้ประเทศชาติสว่าง และชูมือสามนิ้ว

ที่ จ.ชลบุรี กลุ่มนักเรียนนักศึกษา และเยาวชน โดยอ้างตัว เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา กว่า 500 คน เดินทางมารวมตัวชุมนุมกันที่หน้าหอธำรง บัวศรี ภายในมหาวิทยาลัยบูรพา โดยมีการชูสามนิ้ว ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพ ลาออก รัฐสภาต้องเปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พร้อมทั้งยังมีการประณามที่รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับนักเรียนนักศึกษาและเยาวชนในการยึดคืนพื้นที่สลายม็อบที่ผ่านมา

ส่วนที่บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา มีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาร่วมชุมนุม ซึ่ง พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพพัทยา ได้แจ้งประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อร้องขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัวและยกเลิกการชุมนุมครั้งนี้อย่างสงบ เนื่องจากกรณีดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตการจัดชุมนุมตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนแยกย้ายและนัดหมายเดินทางมายังชายหาดหน้า สภ.เมืองพัทยา เพื่อส่งแกนนำขึ้นไปเจรจาและขออนุญาตจัดการชุมนุมอย่างถูกต้อง

ที่ จ.ตรัง ภายในสวนทับเที่ยง สวนสาธารณะกลางเมืองตรัง ได้มีบรรดานิสิต นักศึกษา และประชาชนจังหวัดตรัง กว่า 200 คน เดินทางมารวมตัวเพื่อประกาศจุดยืนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดคุกคามประชาชน ด้วยการพร้อมใจกันสวมเสื้อดำชู 3 นิ้ว พร้อมนำผ้าขาว และกระดาษเอ 4 เขียนข้อความโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยข้อความต่างๆ นอกจากนั้นยังมีการสลับผลัดเปลี่ยนกันไฮปาร์กอย่างดุเดือด

ส่วนที่ จ.อุดรธานี ที่ลานน้ำพุ ในสนามทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี กลุ่มเยาวชนปลดแอกอุดรธานี ได้นัดรวมตัวกัน เพื่อแสดงออกทางการเมือง โดยมีผู้มาร่วมประมาณ 200 คน พร้อมกับชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์การต่อสู้ เรียกร้องประชาธิปไตยท่ามกลางสายฝนซึ่งตกลงมา โดยมีตำรวจ ปกครอง กอ.รมน.จำนวนหนึ่งเดินทางมาสังเกตการณ์

ขณะเดียวกันที่ จ.ตรัง ที่หน้าสวนทับเที่ยง เทศบาลนครตรัง ประชาชนและนักเรียน นักศึกษา ในจังหวัดตรังได้ร่วมกันจัดกิจกรรม โบ๋เราคนตรังไม่เอาเผด็จการ เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกปทุมวัน กทม. มีคนมาร่วมชุมนุมครั้งนี้ประมาณ 200 คน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย คอยดูแลความสงบเรียบร้อยกลางสายฝนตกหนัก

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำแผ่นป้ายกระดาษเขียนข้อความโจมตีรัฐบาล พร้อมทั้งตะโกนโจมตีนายกรัฐมนตรี และมีการนำผืนผ้าสีขาวให้ผู้ที่มาร่วมได้เขียนข้อความ จากนั้นได้ผลัดกันมาปราศรัยร่วมแสดงจุดยืน ส่วนหนึ่งได้ขอให้สื่อมวลชนทำข่าวด้วยความเที่ยงตรงเป็นกลาง ต่อมาเวลา 18.00 น.ได้ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย พร้อมกับชู 3 นิ้ว ท่ามกลางฝนที่ตกหนักสลับเบาตบอกเวลา บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย

นอกจากนี้ อีกพื้นที่คือ กลางสี่แยกแครายในเขตเทศบาลนครนนทบุรี มีประชาชนสวมเสื้อดำ นำโดยกลุ่มนนทบุรีปลดแอก ได้รวมตัวกันจนเต็มสี่แยกด้วยตัวเลขผู้เข้าร่วมกว่าพันคน และเป็นการชุมนุมที่ยุติช้าสุดกว่าพื้นที่ในกทม.เพราะ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นครอบคลุมเฉพาะในกรุงเทพฯเท่านั้น