“เพนกวิน” ลั่น “ไม่มีอาวุธ ใส่ชุดเกราะมาทำไม” ถึงเวลาพิสูจน์ความเป็นคน ส่งสัญญาณ “ประยุทธ์” ต้องลาออก

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม บริเวณถนนราชดำเนินนอก แยกสวนมิสกวัน ใกล้ทำเนียบรัฐบาล บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มประชาชนที่ใช้ชื่อว่า คณะราษฎร เป็นไปอย่างคึกคัก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำคณะราษฎร ผลัดเปลี่ยนขึ้นปราศรัยอย่างต่อเนื่อง

เวลา 19.50 น. นายพริษฐ์ ชิวหารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำคณะราษฎร ขึ้นปราศรัย นายพริษฐ์กล่าวว่า
วันนี้ไม่มีความตั้งใจที่จะมาปราศรัย มาด้วยอุดมการณ์เดียวไม่เอาเผด็จการ ไม่ว่าจะรูปแบบใด มีเรื่องสำคัญแจ้งให้ทราบ

“มีข่าวถึงหูผม ตำรวจแจ้งมาว่า จะขอให้ม็อบแหวกทาง เรายอมหรือไม่” โดยประชาชนตะโกน ไม่ยอม

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า “ประเทศเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แปลว่า พลเมือง อธิปไตย แปลว่าอำนาจ แปลว่า ประชาชนมีอำนาจสูงสุด”

“ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ๆ นักต่อสู้ ปี 2516 2519 2535 2553 เขามาขอบคุณมวลชน ที่เราสู้ได้อย่างเปิดหน้า สมัยจอมพล ป. สมัยปรีดี พนมยงค์ ก็ต่อสู้

นายพริษฐ์กล่าวด้วยว่า เมื่อวันก่อนได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ก่อนจอมพล ป.ถูกยึดอำนาจ ให้ออกนอกประเทศว่า มีการโจมตี จอมพล.ป. คนที่ทำงานคือ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็ไม่แปลกใจว่า ขนาดผู้ก่อตั้งพรรค นายควง อภัยวงศ์ ยังโหนได้ ทำไมนายอภิสิทธิ์ จะโหนไม่ได้

“ผ่านยุคเดือนตุลา ไม่ได้ไล่แค่ 3 คน ยุคนั้นเขียนชัดเจนว่าสังคมเป็นอย่างไร ประชาธิปไตยไม่เต็มใบ มาถึงปี 53 ไม่ต้องพูดมาก ทำให้ตาสว่าง ม็อบสีหนึ่งได้รับการค้ำจุน ม็อบอีกสีกลับถูกย้ำยี

“ไม่มีใครมีอาวุธ จะเรียงแถว ใส่ชุดเกราะมาทำไม วันนี้เรามากัน 3 แสน ตำรวจมา 95 กองร้อย ก็แค่ 5,000 คน ด้วยพลังมวลชน ซี่งทราบมาว่า ปลายหางแถวเรายังอยู่แยกยมราช ไม่รู้กี่กิโลนู่นแหละ ท่านไม่ต้องกลัว เขาไม่กล้าทำอะไรกับเรา คนเราเยอะ”นายพริษฐ์กล่าว และว่า

“ไม่ว่าเราจะแสดงท่าทีอย่างไร ก็มองเราแค่ฝุ่น ถึงเวลาที่ต้องพิสูจน์อย่างตรงไปตรงมา เพราะเราเป็นคน ไม่ใช่ฝุ่นแต่อย่างใด ขอส่งสัญญาณอย่างตรงไปตรงมา พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออก” นายพริษฐ์กล่าว
จากนั้น มวลชนตะโกน “ประยุทธ์ ออกไป” พร้อมปรบมือ และส่งเสียงโห่