‘ชูศักดิ์’ ปัดร่วมเป็นอนุฯกมธ.แก้ร่างรธน. ชี้ถ้ารัฐบาลจริงใจแก้เลย

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่ากรรมาธิการ (กมธ.) ก่อนรับหลักการในกรณีดังกล่าวเสนอให้ตั้งอนุกรรมการเพื่อศึกษาก่อนรับหลักการ โดยเชิญตนเองและนายชัยเกษม นิติศิริ เข้าร่วมเป็นอนุ กมธ.ศึกษา ว่า ได้ตอบปฏิเสธไป เหตุผลสำคัญเพราะเมื่อพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านปฏิเสธที่จะร่วมเป็น กมธ. ตนคงจะไปร่วมไม่ได้ ทราบว่า นายชัยเกษมก็ปฏิเสธเช่นกัน ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่า กมธ. ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ เป็น ส.ส. เป็น ส.ว.รู้เรื่องรัฐธรรมนูญกันมาทั้งนั้น จริงๆ จึงไม่ต้องมาศึกษาอะไรกันมากอยู่แล้ว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การตั้ง กมธ.ชุดนี้ จึงเป็นเรื่องเหมือนการซื้อเวลามากกว่า แสดงออกว่าไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใดๆ เลย แสดงออกว่ารัฐบาลไม่อยากจะรับผิดชอบอะไรปล่อยให้เป็นภาระของพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว. เท่านั้น ตนทราบว่าที่อยากเชิญพวกเราไปอยากจะขอความคิดเห็น และฟันธงว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ จะขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่

“อย่าตื่นเต้นกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมากนัก คำวินิจฉัยดังกล่าวเกิดขึ้นตอนใช้รัฐธรรมนูญ 50 ซึ่งปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว เป็นการวินิจฉัยมาตรา 291 ตามรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งไม่ได้เขียนเรื่องให้ไปทำประชามติไว้เลยแต่ศาลกับบอกควรไปทำประชามติ รัฐธรรมนูญฉบับนึ้กำหนดการทำประชามติไว้แล้วตามมาตรา 256 (8) ต่างจากรัฐธรรมนูญ 50 นอกจากนี้ อย่าไปสับสนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเขาบอกว่าหากจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรไปทำประชามติก่อน ฉบับใหม่ฉบับเก่าเป็นวิธียกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่มันก็มีบทบัญญัติเหมือนกันเกือบ 50% กับฉบับเก่า เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดการแก้ไขไว้แล้ว กำหนดการทำประชามติไว้แล้ว จึงอย่าไปวิตกต่อคำวินิจฉัยดังกล่าวจนเกินเหตุ ตนยังสับสนมาจนบัดนี้ว่าเป็นคำวินิจฉัยหรือคำแนะนำ ถ้าจริงใจจะแก้ก็ทำไปเลย ที่ว่าจะต้องประชามติสามครั้งสี่ครั้งนั้นตนเห็นว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น สองครั้งเท่านั้น หนึ่งตอนแก้ 256 ตั้ง ส.ส.ร. สองเมื่อ ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ” นายชูศักดิ์ กล่าว

พิเศษ ลด 40%! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ฺ ลดราคาพิเศษ 40% เฉพาะสมัครวันนี้ถึง 11 ตุลาคม 2563 เท่านั้น คลิกดูรายละเอียดที่นี่